ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum กับนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๘ — ๒๙ มกราคม ๒๕๕๔ ณ เมืองดาวอส นั้น นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เดินทางไปนครซูริค สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อมอบนโยบายแก่เอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ไทยประจำภูมิภาคยุโรป โดยย้ำถึงบทบาทหน้าที่ในการสร้างความเข้าใจต่อต่างชาติเกี่ยวกับพัฒนาการทางการเมืองและประชาธิปไตยของไทย และส่งเสริมบทบาทของไทยบนเวทีโลกในฐานะสมาชิกของสหประชาชาติในด้านต่าง ๆ อาทิ การให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม การส่งกองกำลังรักษาสันติภาพในภารกิจรักษาสันติภาพผสมระหว่างสหภาพแอฟริกาและสหประชาชาติในดาร์ฟูร์ การส่งหมู่เรือปราบโจรสลัดเข้าร่วมปฏิบัติภารกิจในน่านน้ำโซมาเลีย โดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือแก่เฮติ เป็นประเด็นที่ไทยได้รับการชื่นชมจากองค์การอาหารโลก ซึ่งการให้ความช่วยเหลือเฮติผ่านอินเตอร์เน็ตจากเยาวชนไทยมีมากเป็นอันดับ ๑ ของโลก รวมถึงการเสนอให้ใช้สนามบินอู่ตะเภาเป็นศูนย์เตรียมความพร้อม (rapid employment) เพื่อเป็นคลังอาหารสำหรับการรับมือกับภัยพิบัติฉุกเฉิน
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้ขอให้เอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่สะท้อนนโยบายของรัฐบาลในการทำงานเพื่อประชาชนในการกำจัดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และดำเนินกิจกรรมเพื่อประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมไทย (Cultural diplomacy) และดำเนินนโยบายเชิงรุกและสร้างปฏิสัมพันธ์ (reach out) กับทุกหน่วยงานในประเทศที่รับผิดชอบให้มากที่สุด โดยให้คำนึงถึงสถานะของประเทศไทยที่เป็นประเทศขนาดกลาง และเป็นสังคมเปิดที่ให้อิสระกับภาคเอกชนให้ดำเนินงานได้อย่างเต็มที่โดยปราศจากการแทรกแซงจากภาครัฐบาล ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินงานเพื่อแสวงหาแนวทางในการแลกเปลี่ยนและเรียนรู้แนวปฏิบัติที่ดีเลิศ (best practices) จากประเทศในยุโรปในสาขาที่ไทยให้ความสนใจ อาทิ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การจัดการด้านทรัพยากรน้ำ พลังงานทดแทน ตลอดจนนวัตกรรมและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เป็นต้น
ต่อมาในวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๕๔ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ประจำภูมิภาคยุโรป ประจำปี ๒๕๕๔ โดยมีรัฐมนตรีว่าการฯ ประธานผู้แทนการค้าไทย (TTR) ผู้บริหารจากกระทรวงการต่างประเทศ เอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่จาก ๒๓ แห่งทั่วยุโรป และผู้แทนจากบริษัทชั้นนำของประเทศไทย อาทิ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมการประชุมด้วย
นายกรัฐมนตรีได้สรุปผลการเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum ที่เมืองดาวอส โดยเน้นการปกป้องผลประโยชน์ของไทยในเรื่องการค้าและการส่งออกสินค้าไปยังสหภาพยุโรป รวมถึงโอกาสของไทยในการขยายความสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุนกับประเทศในภูมิภาคยุโรปตะวันออก นอกจากนี้ ได้กล่าวถึงนโยบายและภาพรวมของผลการดำเนินงานของรัฐบาลเพื่อการปฏิรูปเศรษฐกิจและสังคมภายในประเทศ โดยเน้นว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีที่ผ่านมาถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี มีการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ และการลงทุนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทยกว่า ๑๕ ล้านคน นอกจากนี้ รัฐบาลยังให้ความสำคัญต่อการขจัดปัญหาความเหลื่อมล้ำของสังคม อาทิ การจัดการกับปัญหาหนี้นอกระบบ การลดสถิติการเกิดอาชญากรรม และการส่งเสริมการกระจายรายได้และการมีส่วนร่วมของประชาชนต่อแผนพัฒนาท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ฝากให้เอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ได้ชี้แจงและสร้างความเข้าใจกับนานาประเทศให้รับทราบถึงข้อเท็จจริงและความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการบริหารประเทศตามระบอบประชาธิปไตยและเคารพต่อกระบวนการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนอย่างแท้จริง
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--