รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับ การเข้าร่วมประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย- กัมพูชา ครั้งที่ ๗
เมื่อวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับการเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี (JC) ไทย- กัมพูชา ครั้งที่ ๗ ในวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ที่จังหวัดเสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชา และความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. การประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี (JC) ไทย- กัมพูชา เป็นการประชุมเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยเฉพาะทางด้านการค้า เศรษฐกิจ การลงทุน และการ ซึ่งในโอกาสดังกล่าว จะได้หารือนอกรอบกับนายฮอร์ นัมฮอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศโดยทั่วไป การแก้ไขประเด็นปัญหาที่มีอยู่ และการดำเนินการต่อไป รวมทั้งการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกัน และการผลักดันการดำเนินการในกรอบของอาเซียนด้วย
๒. ต่อข้อซักถามของผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับกรณีแถลงการณ์เรื่องวัดแก้วสิกขาคีรีศวรและธงชาตินั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า กองทัพอยู่ระหว่างการหารือกัน ซึ่งก็มีทั้งกรอบของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) และคณะกรรมาธิการเขตแดนทั่วไป (GBC) ที่เจรจากันอยู่แล้ว นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายจะต้องหลีกเลี่ยงในการที่จะเพิ่มประเด็นปัญหาบริเวณชายแดน และควรใช้วิธีการเจรจากัน รวมทั้งพยายามที่จะไม่ออกถ้อยแถลงใด ๆ ที่จะนำไปสู่ความตึงเครียดและการขัดใจระหว่างกันได้ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศก็เห็นพ้องกันว่าไม่อยากให้มีการทำสงครามสื่อระหว่างกันและให้หลีกเลี่ยงการให้ข่าวที่อาจนำไปสู่การผิดใจกันโดยใช่เหตุ ส่วนการที่ประเทศไทยมีถ้อยแถลงออกไปเกี่ยวกับกรณีของวัดแก้วฯ ไม่ได้เป็นการตอบโต้กัมพูชา แต่เป็นเรื่องของเขตแดนเพื่อยืนยันอำนาจอธิปไตยของไทยตามข้อเท็จจริง ข้อตกลง และหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และเป็นการให้ข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้รับทราบเท่านั้น ทั้งนี้ ยังได้มอบหมายให้เอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ พูดจากับฝ่ายกัมพูชา เพื่อแก้ไขปัญหาและเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันด้วย
๓. หากมีเวลาหลังการประชุม JC รัฐมนตรีว่าการฯ ก็จะเดินทางจากจังหวัดเสียมราฐไปยังกรุงพนมเปญเพื่อเข้าเยี่ยมนายวีระ สมความคิดด้วย เพราะแม้ว่าตนจะมีความคิดทางการเมืองที่ต่างกับนายวีระฯ แต่ก็เป็นเพื่อนกัน จึงต้องพูดจากันว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้สามารถนำนายวีระฯ กลับมาประเทศไทยได้โดยเร็วที่สุด
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--