เมื่อวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า วันนี้ (๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔) มีการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสของคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี (JC) ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ ๗ ซึ่งผลการประชุมเป็นไปด้วยดี โดยประกอบด้วยการประชุม ๓ กลุ่มย่อย ได้แก่ ด้านการเมือง ด้านเศรษฐกิจ และด้านสังคมและวัฒนธรรม ซึ่งผลจากการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสจะได้เสนอให้ที่ประชุมระดับรัฐมนตรีของ JC พิจารณาในวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ทั้งนี้ การประชุม JC เป็นการประชุมเพื่อทบทวนสถานะของความร่วมมือระหว่างไทยกับกัมพูชา อาทิ ความมั่นคงด้านชายแดน โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ การลงทุนค้าขาย ซึ่งจะนำเอาความห่วงกังวลและข้อเสนอแนะของภาคเอกชนเสนอต่อที่ประชุมเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้กับนักธุรกิจไทยที่จะไปลงทุนที่ประเทศกัมพูชา นอกจากนี้ ยังจะมีการหารือเพื่อส่งเสริมงานด้านสังคม วัฒนธรรม และการศึกษา เช่น การทอดกฐิน การแสดงดนตรีร่วมสมัย การแสดงวัฒนธรรมโบราณ รวมถึงการแสดงสินค้าไทยที่กรุงพนมเปญในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ด้วย
รัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวอีกว่า หลังจากการประชุม JC แล้วจะเดินทางไปยังกรุงพนมเปญเพื่อเยี่ยมนายวีระ สมความคิด และนางสาวราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ โดยจะพูดคุยกับนายวีระฯ อย่างเปิดอกในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง และอยากให้นายวีระฯ กลับมาช่วยประเทศชาติ การจะยึดมั่นถือมั่นที่จะต่อสู้ในคุกมีแต่จะทำให้นายวีระฯ มีบทบาทได้น้อยลง ส่วนนายวีระฯ และนางสาวราตรีฯ จะอุทธรณ์หรือไม่นั้น ต้องขึ้นกับความประสงค์ของทั้งสองคนเป็นสำคัญ และเมื่อกระบวนการยุติธรรมดำเนินถึงจุดหนึ่ง ฝ่ายบริหารก็จะเข้าไปประสานงานเพื่อให้มีการลดโทษหรืออภัยโทษได้ ในระหว่างนี้รัฐมนตรีว่าการฯ จะได้พบกับนายฮอร์ นัมฮง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา เพื่อหารือถึงความเป็นไปได้ที่ฝ่ายการเมืองจะเข้าไปดำเนินการเพื่อเร่งรัดกระบวนการหรือให้มีการปล่อยตัวคนไทยโดยเร็ว ส่วนเรื่องของเขตแดน กลไกในการแก้ไขปัญหาเขตแดนก็มีอยู่แล้ว แต่การเจรจาต้องใช้เวลาจึงขอให้อดทน การมีความเห็นที่ต่างกันในเรื่องของบันทึกความเข้าใจระหว่างไทยกับกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก ปี ๒๕๔๓ (MOU ปี ๒๕๔๓) ก็ต้องแก้กันไป อย่างไรก็ดี คงต้องแยกปัญหาทั้งสองอันนี้ออกจากกัน
ต่อข้อซักถามของผู้สื่อข่าวว่าการหารือกับนายฮอร์ นัมฮง จะยกประเด็นที่มีปัญหากันในขณะนี้ขึ้นหารือหรือไม่นั้น รัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวว่า คงจะมีการหารือกันทั้งประเด็นเรื่องของวัดแก้วสิกขาคีรีศวร ธงชาติ และพื้นที่ ๔.๖ ตารางกิโลเมตร โดยไม่ต้องการให้เกิดการเผชิญหน้าหรือประหัตประหารกัน และนายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศก็เห็นพ้องกันว่าควรหลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ตลอดแนวชายแดนที่จะก่อให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างกัน สิ่งใดที่พอจะอะลุ่มอล่วยกันได้ก็ให้บรรเทากันลงไป และไม่อยากให้เกิดสงครามสื่อ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--