เมื่อวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถ้อยแถลงเปิดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี (JC) ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ ๗ ที่จังหวัดเสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชา สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. รัฐมนตรีว่าการฯ มีความยินดีที่ได้เยือนกัมพูชาอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่ได้ร่วมงานเลี้ยงรับรองในโอกาสครบรอบ ๖๐ ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับกัมพูชา เมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๓ ซึ่งในโอกาสดังกล่าวได้เข้าเยี่ยมคารวะสมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และหารือข้อราชการกับนายฮอร์ นัมฮง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาซึ่งนำมาสู่การประชุม JC ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ ๗ ในวันนี้ (๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔) และแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๓ การประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสของ JC เมื่อวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ก็ได้แสดงถึงความมุ่งมั่นและความตั้งใจจริงของทั้งสองประเทศที่จะร่วมกันส่งเสริมและกระชับความสัมพันธ์ รวมถึงความร่วมมือด้านต่าง ๆ ระหว่างกัน และแสดงให้ประเทศอื่น ๆ เห็นว่าประเทศทั้งสองยังคำนึงถึงภาพใหญ่ มีความสุขุม และจะกระทำในสิ่งที่ควรกระทำเพื่อประโยชน์ออกทั้งสองประเทศ
๒. ประเทศไทยและกัมพูชาเป็นเพื่อนบ้านที่มีความผูกพันกันทั้งทางประวัติศาสตร์ ภาษา ขนบธรรมเนียมประเพณี และวิถีชีวิตอย่างใกล้ชิด ซึ่งความผูกกันดังกล่าวเป็นต้นทุนทางสังคมร่วมกันของไทยและกัมพูชาที่รัฐบาลและประชาชนของทั้งสองประเทศควรใช้ให้เป็นประโยชน์ในการส่งเสริมสายสัมพันธ์และความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ระหว่างกันให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่ประเทศที่อยู่ติดกันจะมีปัญหากระทบกระทั่งกันและมีมุมมองต่างกันบ้าง อย่างไรก็ดี ประเทศไทยและกัมพูชายังมีอนาคตที่ดีร่วมกันอย่างมากมาย จึงควรมุ่งแก้ปัญหาและร่วมมือกัน เพื่อความสงบสุขของประเทศทั้งสอง
นอกจากนี้ ไทยและกัมพูชายังมีพันธกรณีในฐานะสมาชิกของอาเซียนที่จะเติบโตเป็นประชาคมอย่างแท้จริงในปี ค.ศ. ๒๐๑๕ จึงจำเป็นต้องร่วมมือกันมากขึ้น และต้องมองข้ามความขัดแย้งในอดีต ไม่ให้เป็นอุปสรรคต่ออนาคตได้
๓. การประชุม JC ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ ๗ เป็นการส่งสัญญาณที่สำคัญให้ประชาชนของทั้งสองประเทศและประชาคมระหว่างประเทศเห็นว่า รัฐบาลไทยและกัมพูชามีความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกันอย่างสร้างสรรค์ เพื่อผลประโยชน์และความก้าวหน้าของประเทศและภูมิภาคอาเซียน
๔. รัฐมนตรีว่าการฯ แสดงความยินดีที่ประเทศไทยและกัมพูชามีความคืบหน้าในความสัมพันธ์อย่างเป็นรูปธรรม นับตั้งแต่การประชุม JC ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ ๖ เมื่อปี ๒๕๕๒ อาทิ การลงนามความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา การเห็นชอบให้มีการดำเนินการเปิดจุดผ่านแดนถาวรแห่งใหม่ระหว่างจังหวัดสระแก้วกับจังหวัดบันเตียเมียนเจย ซึ่งความร่วมมือเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมการติดต่อของประชาชนทั้งสองประเทศและประชาชนในภูมิภาคต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--