นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้กล่าวถึงความพร้อมของไทยในการสนับสนุนให้เกิดประชาคมอาเซียนตามเสาหลักทั้ง ๓ ด้าน โดยเน้นความจำเป็นของการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกระชับความร่วมมือและทำงานอย่างใกล้ชิดกับประชาชน ภาคประชาสังคม และภาคเอกชนในการสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับอาเซียนในมิติด้านสังคมและวัฒนธรรม
เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอาเซียนแห่งชาติ ครั้งที่ ๑/๒๕๕๔ ณ วิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อรับทราบความคืบหน้าในการดำเนินงาน รวมถึงการแลกเปลี่ยนทัศนะระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำหรับการก้าวสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยมีผู้แทนจากภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมการประชุมฯ โดยรัฐมนตรีว่าการฯ ได้กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมสู่การเป็นประชาคมอาเซียนตามเสาหลักทั้ง ๓ ด้าน ได้แก่ การเมืองและความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคมและวัฒนธรรม
ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้ให้ความสำคัญต่อการบูรณาการอาเซียนด้านสังคมและวัฒนธรรม ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของการเป็นประชาคมอาเซียน โดยรัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานอย่างใกล้ชิดกับประชาชนและภาคประชาสังคมในการสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับอาเซียน เช่นเดียวกับการกระชับความร่วมมือกับภาคเอกชน โดยเฉพาะในต่างจังหวัดเพื่อสร้างหุ้นส่วน (partner) ในการดำเนินงานเพื่อส่งเสริมกิจกรรมอาเซียนในด้านวัฒนธรรมและการศึกษาในท้องถิ่น
รัฐมนตรีว่าการฯ เห็นว่าบทบาทของสื่อมวลชนและความคล้ายคลึงทางวัฒนธรรมของประชาชนในภูมิภาคจะมีส่วนสำคัญในการสร้างประชาคมอาเซียน ดังจะเห็นได้จากผลการประชุมระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของอาเซียนและรัฐมนตรีต่างประเทศของจีนที่ได้ตกลงที่จะจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์ร่วมกันในบางพื้นที่ของจีนตอนใต้พร้อมกับอีกหลายประเทศในอาเซียน โดยจะมีการถ่ายทอดผ่านสถานีวิทยุและโทรทัศน์ท้องถิ่น ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความใกล้ชิดทางวัฒนธรรมของประเทศในภูมิภาคนี้ ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ เห็นว่า อาเซียนจำเป็นต้องมีการชำระประวัติศาสตร์ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ร่วมกัน เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์เป็นตัวกำหนดหรืออุปสรรคต่อการสร้างประชาคมอาเซียน
ในด้านการเมืองและความมั่นคง รัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยเช่นเดียวกับอีกหลายประเทศในอาเซียนได้มีบทบาทมากขึ้นต่อประเด็นระดับโลก (global issues) อาทิ ความมั่นคงทางทะเล และภารกิจรักษาสันติภาพ เป็นต้น โดยอาเซียนควรมีการประสานท่าทีต่อประเด็นเหล่านี้บนเวทีระหว่างประเทศเพื่อสร้างความเป็นปึกแผ่นขององค์กรต่อไป
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ ยังได้เน้นย้ำว่า อาเซียนจำเป็นต้องเร่งการบูรณาการด้านเศรษฐกิจเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสร้างความเชื่อมโยง (Connectivity) จากการปรับปรุงเส้นทางคมนาคมและการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการด้านศุลกากรที่ด่านชายแดนเพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้า และการเดินทางของประชาชนให้มีความรวดเร็วยิ่งขึ้น
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--