เมื่อวันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๕๔ นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับความคืบหน้าของการดำเนินการเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาในด้านต่าง ๆ ดังนี้
๑. ตามที่รัฐบาลไทยเคยเสนอให้จัดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ระหว่างวันที่ ๗-๘ มีนาคม ๒๕๕๔ โดยให้รัฐบาลอินโดนีเซียมีบทบาทในการอำนวยความสะดวกให้กับการประชุมดังกล่าว นั้น บัดนี้ปรากฏว่ามีความจำเป็นที่ต้องเลื่อนการประชุมดังกล่าวออกไปก่อน เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาได้แจ้งว่าประสงค์ให้บันทึกการประชุม JBC ที่ผ่านมาทั้ง ๓ ครั้งผ่านการพิจารณาของรัฐสภาไทยก่อน อย่างไรก็ดี ทั้งที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เมื่อวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ และที่ประชุมอย่างไม่เป็นทางการของรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน เมื่อวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ต่างเรียกร้องให้ไทยกับกัมพูชาหารือทวิภาคีระหว่างกันในโอกาสแรก ทั้งภายใต้กรอบของ JBC และคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของทั้งสองฝ่ายเป็นประธานร่วม โดยอินโดนีเซียจะอำนวยความสะดวกให้ ซึ่งฝ่ายไทยแสดงความพร้อมที่จะเจรจาทวิภาคีกับกัมพูชามาโดยตลอด จึงอยู่ที่ว่าฝ่ายกัมพูชาจะพร้อมเมื่อใด
๒. เกี่ยวกับการส่งผู้สังเกตการณ์อินโดนีเซียมาบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ตามที่ทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้เชิญนั้น โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า ฝ่ายอินโดนีเซียได้ส่งร่างรายละเอียดขั้นตอนการปฏิบัติ (Terms of Reference) ในการส่งผู้สังเกตการณ์ดังกล่าวให้ฝ่ายไทยและกัมพูชาแล้ว ซึ่งในหลักการ รัฐบาลไทยไม่มีข้อขัดข้อง แต่คงต้องมีการหารือกันระหว่างไทยกับกัมพูชาในรายละเอียดทางปฏิบัติเพื่อหาข้อสรุปร่วมกันก่อน ซึ่งหวังว่าเมื่อฝ่ายกัมพูชาพร้อมก็จะสามารถยกขึ้นหารือกันในการประชุม GBC ได้
๓. สำหรับความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือนายวีระ สมความคิด และนางสาวราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญได้ประสานให้ญาติของนายวีระฯ เข้าเยี่ยมนายวีระฯ แล้ว ต่อจากนี้ คงเป็นเรื่องที่นายวีระฯ และนางสาวราตรีฯ ต้องพิจารณาร่วมกับทนายความชาวกัมพูชาเกี่ยวกับการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งเมื่อดำเนินการแล้ว กระทรวงการต่างประเทศก็ยินดีเข้าไปอำนวยความสะดวกให้แก่บุคคลทั้งสองอย่างเต็มที่
ต่อกรณีที่มีการรายงานข่าวเกี่ยวกับสุขภาพของนายวีระฯ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ให้เจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตฯ เข้าไปดูแลนายวีระฯ และนางสาวราตรีฯ อย่างใกล้ชิด รวมทั้งการส่งอาหารให้วันละ ๒ มื้อ แต่ที่ผ่านมา การขออนุญาตให้ญาติของนายวีระฯ เข้าเยี่ยมอาจต้องใช้เวลา และต้องเป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการและระเบียบที่เกี่ยวข้องของทางการกัมพูชา ทั้งนี้ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตฯ ไปส่งอาหารให้กับนายวีระฯ ได้รับทราบจากแพทย์ประจำเรือนจำเปร็ยซอว่า นายวีระฯ เป็นหวัดเล็กน้อย และแพทย์ประจำเรือนจำดูแลอยู่แล้ว อย่างไรก็ดี โดยที่ทางญาติของนายวีระฯ ยังคงมีความห่วงกังวลอยู่ กระทรวงฯ จึงได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ประสานขอให้แพทย์ที่กรุงพนมเปญเข้าไปตรวจสุขภาพนายวีระฯ เป็นการเพิ่มเติม และหากเป็นไปได้ จะขออนุญาตให้นายวีระฯ ออกมารับการตรวจสุขภาพภายนอกเรือนจำด้วย แต่ทั้งนี้กำลังรอผลการพิจารณาของทางการกัมพูชาอยู่
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--