เมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๔ เวลา ๑๘.๐๐ น. นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวแก่สื่อมวลชนเกี่ยวกับความคืบหน้าในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในญี่ปุ่น สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
๑. ในช่วงบ่ายของวันที่ ๑๔ มีนาคม ศกนี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ นายกกิตติมศักดิ์ตลอดชีพ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ทรงโปรดให้ รศ.ดร.นพ. พิชิต สุวรรณประกร รองประธานมูลนิธิฯ เป็นผู้แทนพระองค์ มอบถุงพระราชทานจำนวน ๓,๐๐๐ ถุง พร้อมด้วยถุงนอนกันหนาวให้แก่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อนำไปช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวและสึนามิที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการจัดส่งต่อไปให้แก่ผู้ประสบภัยในโอกาสแรกต่อไป
๒. เมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๔ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตประเทศสมาชิกอาเซียน ได้แก่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และบรูไน ดารุสซาลาม ได้ส่งคาราวานรถเดินทางไปยังเมืองเซ็นได โดยได้รับการอนุญาตเป็นกรณีพิเศษจากรัฐบาลญี่ปุ่นให้เดินทางโดยใช้ทางด่วน ซึ่งทำให้คณะฯ สามารถเข้าไปยังพื้นที่ได้รวดเร็วกว่ากำหนดการเดิมที่คาดไว้ ในโอกาสนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้พบกับชุมชนคนไทยในเมืองเซ็นได และได้มอบอาหารและน้ำ ซึ่งเริ่มขาดแคลนให้กับชุมชนคนไทยในพื้นที่ ทั้งนี้ มีคนไทยในจังหวัดมิยากิประมาณ ๒๕๐ คน และในจำนวนนี้มีคนไทย ๗๐ คน แสดงความประสงค์ที่จะให้สถานเอกอัครราชทูตฯ อำนวยความสะดวกเพื่อเดินทางออกนอกพื้นที่ไปยังกรุงโตเกียว ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ จักได้จัดรถยนต์ไปรับกลุ่มคนไทยดังกล่าวในการเดินทางไปยังกรุงโตเกียวในวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๕๔
๓. ในช่วงค่ำของวันที่ ๑๔ มีนาคม ศกนี้ จะมีการส่งแพทย์ซึ่งสามารถสื่อสารภาษาญี่ปุ่นจำนวน ๒ นาย และบุรุษพยาบาล ๑ นาย เดินทางไปญี่ปุ่นด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG ๖๔๒ พร้อมกับผ้าห่มจำนวน ๑,๐๐๐ ผืน และอาหารแห้งอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อให้สถานเอกอัครราชทูตฯ กระจายต่อไปยังผู้ประสบภัยในเบื้องต้น
๔. สถานเอกอัครราชทูตไทยฯ ได้รับแจ้งจากนักเรียนไทยในญี่ปุ่นประมาณ ๓๙ คน แสดงความประสงค์ที่จะเดินทางกลับประเทศไทย โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ พร้อมที่จะอำนวยความสะดวกในการสำรองที่นั่งบนเครื่องบิน รวมทั้งสำรองค่าใช้จ่ายให้กับนักเรียนที่ยังไม่มีบัตรโดยสารเครื่องบินเพื่อเดินทางกลับประเทศไทยต่อไป
๕. เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือแก่ญี่ปุ่น นั้น คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติในหลักการให้ความช่วยเหลือญี่ปุ่นในวงเงิน ๒๐๐ ล้านบาท พร้อมกับข้าวหอมมะลิจำนวน ๑๐,๐๐๐ ตัน และข้าวเหนียวจำนวน ๕,๐๐๐ ตัน ซึ่งจะทะยอยส่งไปญี่ปุ่น ในขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศได้เปิดบัญชีรับการบริจาคจากประชนชนทั่วไป โดยล่าสุด มีผู้บริจาคเงินผ่านกระทรวงการต่างประเทศแล้วรวมทั้งสิ้น ๕.๗ ล้านบาท ซึ่งกระทรวงฯ จะรวบรวมเงินที่ได้รับพร้อมกับยอดเงินที่ได้รับบริจาคผ่านหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อมอบให้แก่สภากาชาดญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหน่วยงานกลางในการรับเงินบริจาคจากต่างชาติ
๖. สถานเอกอัครราชทูตฯ ยังคงเร่งดำเนินการและประสานงานกับเครือข่ายอาสาสมัครคนไทยในญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิดในการตรวจสอบสถานภาพของคนไทยทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ ๑๑ จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุกาณ์ดังกล่าว ซึ่งมีคนไทยพักอาศัยอยู่ประมาณ ๒๑,๐๐๐ คน ในชั้นนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ สามารถติดต่อและได้รับการยืนยันสถานภาพปลอดภัยจากคนไทยประมาณ ๑๐,๐๐๐ กว่าราย และยังไม่ได้รับรายงานคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด ซึ่งตรงกับข้อมูลที่ได้รับทราบจากทางการญี่ปุ่น
๗. สำหรับกรณีการระเบิดของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ นั้น ในเบื้องต้น ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีคนไทยพำนักอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง อย่างไรก็ดี ทางการญี่ปุ่นได้สั่งการให้อพยพประชาชนให้ออกห่างจากรัศมีโรงงานฯ ประมาณ ๒๐ กิโลเมตร และได้มีการแจกยาไอโอไดน์ (Iodine) เพื่อป้องกันผลกระทบจากสารกัมมันตภาพรังสีแล้ว ทั้งนี้ สถานการณ์ขึ้นอยู่กับทิศทางลมด้วยว่าจะพัดไปในทางทิศใด ซึ่งส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าน่าจะพัดออกไปยังทะเลในทิศตะวันออก ทั้งนี้ หากมีคนไทยในพื้นที่ดังกล่าวก็น่าจะได้ดำเนินการตามคำแนะนำของทางการญี่ปุ่นแล้ว
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--