เอกอัครสมณทูตฯ ประจำประเทศไทย และรัฐมนตรีว่าการฯ เห็นพ้องเรื่องความจำเป็นที่จะผลักดันการหารือเกี่ยวกับความศรัทธาและความเชื่อ รวมทั้งการศึกษาด้านวัฒนธรรมและศาสนา

ข่าวต่างประเทศ Monday April 4, 2011 12:33 —กระทรวงการต่างประเทศ

เอกอัครสมณทูตฯ ประจำประเทศไทย และรัฐมนตรีว่าการฯ เห็นพ้องเรื่องความจำเป็นที่จะผลักดันการหารือเกี่ยวกับความศรัทธาและความเชื่อ รวมทั้งการศึกษาด้านวัฒนธรรมและศาสนา

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เน้นถึงบทบาทที่สำคัญของไทยในเรื่องในการหารือเกี่ยวกับความศรัทธาและความเชื่อ (Interfaith Dialogue — IFD) ระหว่างการหารือกับเอกอัครสมณทูตนครวาติกัน ประจำประเทศไทย ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้แบ่งปันข้อคิดเห็นและแนวทางในการสานความร่วมมือในการสร้างความเข้าใจในด้านศาสนาและวัฒนธรรม

เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2544 อาร์ชบิชอป โจวันนี ดานีเอลโล เอกอัครสมณทูตนครวาติกัน ประจำประเทศไทย ได้เข้าเข้าเยี่ยมคารวะนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งเอกอัครสมณทูตนครรัฐวาติกันประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยทั้งสองฝ่ายได้หารืออย่างกว้างขวางในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสังคม วัฒนธรรม และศาสนา ทั้งนี้ เอกอัครสมณทูตฯ เห็นว่า การสนับสนุนให้มีการหารือเกี่ยวกับความศรัทธาและความเชื่อต่าง ๆ จะทำให้เกิดความเคารพและยอมรับระหว่างศาสนามากยิ่งขึ้น การจัดการประชุม Interfaith ในเดือนตุลาคม 2554 ณ เมือง Assisi ประเทศอิตาลี ตามที่สมเด็จพระสันตะปาปาได้ทรงประกาศเนื่องในวันสันติภาพโลก (The World Day of Peace) ซึ่งตรงกับวันที่ 1 มกราคม 2554 จึงเป็นนิมิตหมายที่ดีในการส่งเสริมความเข้าใจระหว่างศาสนาต่าง ๆ

รัฐมนตรีว่าการฯ ได้แสดงความเห็นพ้องกับเอกอัครสมณทูตฯ ว่า IFD มีความสำคัญในการส่งเสริมความเข้าใจในเรื่องวัฒนธรรมและศาสนา โดยได้เน้นย้ำว่า ไทยให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้ ทั้งภายในประเทศและในเวทีระหว่างประเทศ ทั้งนี้ เอกอัครสมณทูตฯ เห็นถึงความสำคัญของไทยในด้านนี้ และได้กล่าวชื่นชมคำกล่าวของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25-28 มกราคม 2554 ในการประชุม The Third Consultation — Pontifical Council for Interreligious Dialogue (PCID) and World Council of Churches (WCC) ณ กรุงเทพฯ

รัฐมนตรีว่าการฯ ได้เสนอด้วยว่า ควรจะเน้นความสำคัญของคำสอนจากศาสนาต่าง ๆ ที่คล้ายกัน ความอดกลั้น ความเป็นเพื่อนบ้าน ตลอดจนความรัก และความเคารพในศาสนาที่แตกต่าง เอกอัครสมณทูตฯ กล่าวด้วยว่า สำนักวาติกันพร้อมที่จะให้ทุนสนับสนุนให้นักเรียนไทย 1 — 2 คน ได้เรียนที่กรุงโรมเพื่อสนับสนุนให้เกิดความเข้าใจด้านศาสนาให้มากยิ่งขึ้น

ทั้งสองฝ่ายได้หารือเรื่องอื่น ๆ ด้วย อาทิ พัฒนาการในการเมืองระหว่างประเทศ พัฒนาการในเรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศและผลกระทบที่มีต่อสังคม และโอกาสที่สำนักวาติกันอาจมีบทบาทในเรื่องผู้หนีภัยการสู้รบกับพม่า

กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ