เมื่อวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๔ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ว่า โดยที่ไทยกับกัมพูชาเห็นพ้องกันว่า การประชุม JBC สามารถดำเนินการต่อไปได้ โดยไม่ต้องรอให้รัฐสภาไทยพิจารณาบันทึกผลการประชุม JBC ทั้ง ๓ ฉบับก่อน คณะผู้แทนไทย โดยมีนายอัษฎา ชัยนาม ประธาน JBC ฝ่ายไทย เป็นหัวหน้าคณะผู้แทน จึงได้เดินทางไปที่เมืองโบกอร์ ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อเข้าร่วมการประชุม JBC ไทย-กัมพูชาแล้ว โดยจะหารือในประเด็นเกี่ยวกับการคัดเลือกบริษัทจัดทำภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ และการส่งชุดสำรวจร่วมไทย-กัมพูชาลงสำรวจพื้นที่ตอนที่ ๕ ระหว่างหลักเขตแดนที่ ๑ — ๒๓ ทั้งนี้ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการหารือกันในประเด็นเรื่องของระเบียบวาระการประชุมและรูปแบบของการประชุม
สำหรับการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) นั้น รัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวว่า เมื่อวันที่ ๖ เมษายน ๒๕๕๔ ได้หารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเห็นว่า การจัดประชุม GBC เป็นเรื่องที่กระทรวงกลาโหมจะพิจารณา ส่วนเรื่องของขอบเขตอำนาจหน้าที่ (Terms of Reference —TOR) ของผู้สังเกตการณ์ชาวอินโดนีเซีย กระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้รับผิดชอบ ทั้งในเรื่องของเอกสิทธิ์และความคุ้มกันทางการทูต ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของสถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย และเรื่องพื้นที่ที่จะให้ผู้สังเกตการณ์ชาวอินโดนีเซียเข้าไปปฏิบัติหน้าที่และที่พักของผู้สังเกตการณ์ ซึ่งในชั้นนี้ คงไม่ได้อยู่ในค่ายทหารของไทย โดยกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมได้มีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอดอยู่แล้ว และคงต้องหารือกันในรายละเอียดกับฝ่ายอินโดนีเซียต่อไป ทั้งนี้ ตั้งแต่ฝ่ายไทยได้รับร่าง TOR จากฝ่ายอินโดนีเซียก็ได้หารือกับฝ่ายอินโดนีเซียมาโดยตลอด และในช่วงที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการฯ ได้พบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซียมาแล้ว ๓-๔ ครั้ง และในวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๕๔ รัฐมนตรีว่าการฯ จะเดินทางไปกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนและญี่ปุ่นเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือประเทศญี่ปุ่น และในโอกาสดังกล่าวจะได้หารือกับฝ่ายอินโดนีเซียและกัมพูชาเกี่ยวกับ TOR ของผู้สังเกตการณ์ชาวอินโดนีเซียด้วย ทั้งนี้ ฝ่ายไทยยืนยันกับฝ่ายอินโดนีเซียและกัมพูชาแล้วว่า ผู้สังเกตการณ์ชาวอินโดนีเซียจะต้องไม่อยู่ในพื้นที่ ๔.๖ ตารางกิโลเมตร
ต่อคำถามของผู้สื่อข่าวกรณีฝ่ายกัมพูชาให้สัมภาษณ์ว่า นายวีระ สมความคิด และนางสาวราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ จะต้องรับโทษเป็นระยะเวลา ๒ ใน ๓ ก่อนจึงจะขอพระราชทานอภัยโทษจากกษัตริย์กัมพูชาได้ รัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวว่า ขณะนี้กระบวนการยุติธรรมเพื่อพิจารณาคดีของ ๒ คนไทยถึงที่สุดแล้ว และทั้งสองได้ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษแล้ว จึงเป็นเรื่องที่ฝ่ายบริหารจะต้องพิจารณาต่อไปว่าจะขอพระราชทานอภัยโทษได้หรือไม่ อย่างไรก็ดี แม้ว่าฝ่ายกัมพูชาจะมีท่าทีดังกล่าวข้างต้น ฝ่ายไทยก็จะต้องหารือกับฝ่ายกัมพูชาต่อไป โดยชี้ให้เห็นว่าประเด็นนี้อยู่ในความสนใจของประชาชนทั้งสองประเทศ และไม่อยากให้เรื่องนี้ก่อให้เกิดความบาดหมางกันระหว่างประเทศ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--