ความช่วยเหลือของไทยต่อญี่ปุ่นหลังภัยพิบัติ

เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2554 เวลา 15.00 น. นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้พบหารือทวิภาคีกับนายทาเคอาคิ มัทสึโมโต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ที่สำนักงานเลขาธิการอาเซียน กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นการหารือก่อนการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน — ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ และเป็นการหารือทวิภาคีครั้งแรกหลังนายทาเคอาคิเข้าดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนมีนาคม 2554

ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้มอบหนังสือแจ้งว่าไทยจะมอบเงิน 125 ล้านบาท (ประมาณ 4.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งได้รับบริจาคจากทุกภาคส่วนของสังคมไทยเพื่อมอบให้แก่รัฐบาลและชาวญี่ปุ่น และพร้อมที่จะมีส่วนร่วมในการช่วยญี่ปุ่นเพื่อพัฒนาฟื้นฟูประเทศต่อไป ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นได้ตอบรับด้วยความขอบคุณ และเน้นย้ำความสัมพันธ์ที่ดำเนินมาอย่างดีโดยตลอดของสองประเทศ และได้แสดงความซาบซึ้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ได้พระราชทานเงินและสิ่งของจำเป็นแก่ผู้ประสบภัยญี่ปุ่นจำนวนมาก

ด้านประเด็นทวิภาคีไทย — ญี่ปุ่นนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นได้หยิบยกประเด็นการเสียชีวิตของนายฮิโรยูกิ มุราโมโต ช่างภาพประจำสำนักข่าวรอยเตอร์ ที่จะครบรอบ 1 ปีการเสียชีวิตในเหตุการณ์ชุมนุมประท้วง ในวันรุ่งขึ้น (10 เมษายน 2554) ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นและครอบครัวของนายมุราโมโตประสงค์ขอรับทราบผลการสืบสวนอย่างเป็นทางการ ซึ่งเรื่องนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแจ้งว่าฝ่ายไทยให้ความสำคัญกับกรณีการเสียชีวิตของนายมุราโมโต และได้ให้ความร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยมาโดยตลอด

สำหรับประเด็นความร่วมมือในเวทีระหว่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นได้กล่าวขอบคุณที่ไทยได้ลงคะแนนเสียงให้การสนับสนุนผู้แทนญี่ปุ่นในการสมัครรับเลือกตั้งตำแหน่งผู้อำนวยการในองค์การอุตุนิยมวิทยาระหว่างประเทศ หรือ International Meteorology Organization (IMO) และหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากไทยในการเสนอข้อมติเรื่องการปฏิรูปโครงสร้างคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ United Nations Security Council (UNSC) ที่ญี่ปุ่นจะเสนอพร้อมกับเยอรมนี บราซิล และอินเดีย ในนามกลุ่ม G4 เพื่อเพิ่ม 4 ประเทศนี้เป็นสมาชิกถาวรประจำ UNSC

หลังจากนั้น รัฐมนตรีว่าการฯ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนไทยและญี่ปุ่นหลังเสร็จสิ้นการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ ว่า ได้มีโอกาสพบกับรัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นและมอบหนังสือแจ้งเรื่องการมอบเงินบริจาคในนามประชาชนไทยแล้ว สำหรับพิธีมอบเงินดังกล่าวนี้จะจัดที่กรุงโตเกียว โดยเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียวจะเป็นผู้มอบเงินให้สภากาชาดญี่ปุ่นต่อไป ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ส่งสิ่งของที่จำเป็น เช่นน้ำดื่ม ผ้าห่ม เสื้อกันหนาว ถุงนอน และถุงยังชีพ ไปให้ญี่ปุ่นแล้ว และจะได้ส่งความช่วยเหลืออื่นที่ยังมีความจำเป็นต้องการอยู่ไปให้อีก อาทิ ไฟฉาย น้ำดื่ม ผลิตภัณฑ์สำหรับสตรี และเครื่องกำเนิดพลังงานไฟฟ้าที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยกำลังอยู่ระหว่างจัดส่งไปให้ นอกจากนั้น ไทยจะส่งข้าวจำนวน 12,000 ตันไปให้เพื่อเพิ่มในคลังข้าวสำรองของญี่ปุ่นด้วย ในด้านอื่น ๆ ที่ไทยอาจช่วยเหลือได้อีก มีอาทิ การใช้ประโยชน์จากความชำนาญของไทยในด้านการออกแบบ งานวิศวกรรม งานก่อสร้าง รวมทั้งการส่งวัสดุก่อสร้าง การเชิญให้คนญี่ปุ่นมาพักผ่อนในประเทศไทย หรือจะมารักษาตัวในทางการแพทย์หรือการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพก็ได้

ในแง่ของความเชื่อมั่นต่อญี่ปุ่นนั้น รัฐมนตรีว่าการฯ เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า การที่รัฐบาลไทยยังมิได้ห้ามคนไทยเดินทางไปญี่ปุ่น ก็ถือเป็นการแสดงความเชื่อมั่นต่อความสามารถในการควบคุมสถานการณ์ของญี่ปุ่นประการหนึ่ง ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นได้จัดการบรรยายสรุปให้คณะทูตต่างประเทศในญี่ปุ่นทราบข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์อย่างต่อเนื่อง และระหว่างการประชุมวันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นก็ได้แจ้งข้อมูลให้ที่ประชุมทราบ อันเป็นการแสดงความโปร่งใส ซึ่งไทยก็มีความเชื่อมั่นในกระบวนการแก้ปัญหาและมาตรการตรวจสอบสภาพอากาศ น้ำ และอาหารของทางการญี่ปุ่น รวมทั้งได้ทราบด้วยว่าญี่ปุ่นได้ร่วมมืออยู่กับผู้เชี่ยวชาญฝ่ายต่าง ๆ อาทิ ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) และสหรัฐอเมริกา จึงเชื่อมั่นได้ว่าระดับของกัมมันตภาพรังสียังไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์ และสถานการณ์ยังควบคุมได้

อนึ่ง เป็นเวลานานเกือบสิบปีมาแล้ว ที่มีการจัดงานเทศกาลไทยทุกปีที่กรุงโตเกียวในช่วงเดือนพฤษภาคมเป็นเวลาสามวัน และมักมีผู้มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ประมาณสองถึงสามแสนคนทุกปี สำหรับในปีนี้ ฝ่ายไทยได้แจ้งยืนยันไปแล้วว่าจะไม่งดจัดงานดังกล่าว ยังจะจัดต่อไปในเดือนหน้านี้ การแสดงวัฒนธรรมไทยที่ได้เตรียมไว้ก็จะไม่ไปแสดงที่ในงานเทศกาลไทยที่กรุงโตเกียวเท่านั้น แต่จะส่งออกไปแสดงในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติครั้งนี้ด้วย เพื่อปลอบขวัญและให้กำลังใจแก่ชาวญี่ปุ่น คู่ขนานกับที่เลขาธิการอาเซียนก็ได้เสนอว่าจะให้เยาวชนอาเซียนที่กำลังศึกษาอยู่ในญี่ปุ่นร่วมจัดการแสดงเพื่อให้กำลังใจชาวญี่ปุ่นด้วย

กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--