เมื่อวันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๕๔ คุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้บรรยายพิเศษเรื่อง “การดำเนินงานด้านสังคมของรัฐบาลแก่ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ” ณ ห้องนราธิป กระทรวงการต่างประเทศ ตามคำเชิญของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยได้เน้นเรื่องการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน การแก้ไขความไม่เป็นธรรมและการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลนที่ดินทำกิน และการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ
ด้านการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนนั้น ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการทำงานของคณะกรรมการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนแห่งชาติ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญของรัฐบาลในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน และการกระจายการพัฒนาสู่ท้องถิ่น การรับฟังความคิดเห็นและปัญหาจากประชาชน ตลอดจนการดำเนินโครงการต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง อาทิ การสร้างเครือข่ายชุมชน การจับคู่ชุมชนเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และแนวทางการพัฒนาระหว่างกัน รวมถึงการใช้มหาวิทยาลัยเป็นกลไกในการช่วยให้เกิดการพัฒนาชุมชนในแต่ละจังหวัด เป็นต้น
สำหรับการแก้ไขความไม่เป็นธรรมและการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลนที่ดินทำกินนั้น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า รัฐบาลได้ดำเนินนโยบายโฉนดชุมชน การจัดตั้งธนาคารที่ดิน การผลักดัน พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และการดำเนินนโยบายด้านสังคมในประเด็นต่าง ๆ เพื่อลดความไม่เป็นธรรมในสังคม เช่น ความพยายามในการพัฒนากลุ่มชายขอบ การมีส่วนร่วมและการรับฟังปัญหาจากประชาชน การบูรณาการทำงานของทุกหน่วยงานเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาด้านสังคม นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายมุ่งการพัฒนาและการเยียวยาในมิติทางสังคมเป็นการเฉพาะ
ในด้านการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวเสริมถึงภารกิจของกระทรวงการต่างประเทศ ในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษของสหประชาชาติ (MDGs) ซึ่งเป็นภารกิจที่มีมิติเกี่ยวโยงอย่างมีนัยสำคัญกับนโยบายด้านสังคมของรัฐบาล โดยกล่าวถึงเป้าหมายในการพัฒนาสุขภาพสตรีมีครรภ์ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ยังไม่สามารถบรรลุได้ ในการนี้อธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศได้กล่าวรายงานความคืบหน้า และกล่าวเสริมว่า ไทยยังคงต้องพัฒนาเพื่อบรรลุเป้าหมายในการรักษาและจัดการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และกล่าวถึงบทบาทของไทยในการเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาในประชาคมโลก โดยเฉพาะด้านสาธารณสุขและเกษตรกรรม
ในโอกาสนี้ ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศได้มีโอกาสซักถามผู้บรรยายเกี่ยวกับนโยบายผู้สูงอายุ ซึ่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ตอบว่า รัฐบาลมีนโยบายที่กำลังผลักดันอยู่สามประเด็นใหญ่ ได้แก่ ๑) การผลักดันกองทุนการออมเพื่อชราภาพ ๒) การพิจารณาจัดตั้งกรมกิจกรรมเพื่อผู้สูงอายุ และ ๓) ให้ผู้เกษียณสามารถทำงานในหน่วยงานราชการได้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีคำถามเกี่ยวกับกระบวนการกำหนดนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนของรัฐบาล ซึ่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่ามีคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนเป็นกลไกหลักในการทำงานและให้ความรู้ด้านสิทธิมนุษยชน และในส่วนของรัฐบาล ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาตามรายงานของคณะกรรมการสิทธิฯ ด้วย
ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้กล่าวปิดท้ายว่า การบรรยายครั้งนี้เป็นประโยชน์อย่างมากต่อข้าราชการกระทรวงฯ เนื่องจากการทำงานด้านสังคม ซึ่งเน้นความกินดีอยู่ดีของมนุษย์ มิใช่เรื่องไกลตัวและอยู่ในภารกิจของกระทรวงการต่างประเทศ โดยสะท้อนอยู่ในรูปแบบความร่วมมือระหว่างประเทศ การบรรยายในครั้งนี้จึงเป็นโอกาสอันดีที่ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศจะได้รับฟังปัญหาที่มีอยู่จริงในสังคมไทย เพื่อนำมาประยุกต์ใช้และเป็นแรงบันดาลใจในการทำงานของข้าราชการกระทรวงฯ เพื่อให้สามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมไทยให้มีคุณภาพต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--