เกี่ยวกับการที่กองกำลังกัมพูชาได้โจมตีด้วยอาวุธโดยปราศจากการยั่วยุต่อทหารและพลเรือนไทยซ้ำอีกครั้ง เมื่อวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๕๔ กระทรวงการต่างประเทศไทยขอเรียนดังนี้
๑. เมื่อเวลา ๐๓.๐๐ — ๐๓.๑๐ น. ชุดลาดตระเวนของไทยพบกลุ่มกองกำลังกัมพูชาเคลื่อนที่เข้าไปในพื้นที่ปราสาทควายและปราสาทตาเมือนใกล้กับแนวหน้าของการวางกำลังทหารของไทยที่จังหวัดสุรินทร์ กองกำลังกัมพูชาได้เปิดฉากยิงอาวุธขนาดเล็ก โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ทำให้กองกำลังฝ่ายไทยต้องยิงกลับด้วยปืนเล็กยาว
๒. เมื่อเวลา ๐๙.๔๕ น. กองกำลังกัมพูชาเปิดฉากยิงอีกครั้งเข้ามาในพื้นที่ปราสาทตาเมือนในดินแดนไทย โดยครั้งนี้ใช้อาวุธหนัก ซึ่งรวมถึงปืนครก ปืนใหญ่ และปืนใหญ่รถถัง กองกำลังฝ่ายไทยได้ตอบโต้ด้วยอาวุธขนาดเล็กก่อนในเบื้องต้น และจากนั้นก็จำเป็นต้องตอบโต้อย่างสมน้ำสมเนื้อกับปืนครกและปืนใหญ่ในขณะที่กองกำลังกัมพูชายังคงยิงใส่กองกำลังฝ่ายไทยตามแนวป้องกันของฝ่ายไทยต่อไป
๓. เมื่อเวลา ๑๑.๔๕ น. กองกำลังกัมพูชาพยายามบุกรุกเข้ามาในดินแดนไทยโดยเคลื่อนกองกำลังเข้าไปในปราสาทตาเมือนประกอบกับการยิงอาวุธหนัก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยึดและควบคุมปราสาทตาเมือน กองกำลังฝ่ายไทยจึงได้หยุดยั้งการรุกเข้ามาของกองกำลังกัมพูชา การยิงโต้ตอบดังกล่าวดำเนินไปจนถึงเวลา ๑๒.๔๕ น.
๔. เมื่อเวลา ๑๕.๒๕ น. กองกำลังกัมพูชาเปิดฉากยิงอย่างต่อเนื่องอีกครั้งหนึ่งโดยใช้อาวุธหนัก ซึ่งรวมถึงปืนครกและปืนใหญ่เข้ามาในบริเวณปราสาทตาเมือน กองกำลังฝ่ายไทยตอบโต้โดยการยิงปืนครก และกองกำลังกัมพูชาเริ่มยิงปืนใหญ่มาที่ฝั่งไทย การยิงโต้ตอบดังกล่าวดำเนินไปจนถึงเวลา ๑๗.๐๐ น.
๕. ตั้งแต่วันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๕๔ กองกำลังทหารกัมพูชาได้เคลื่อนย้ายกำลังจำนวน ๒ กองพันจากฐานที่ตั้งพื้นที่ปราสาทพระวิหารมายังพื้นที่ใกล้ปราสาทตาเมือน และมีการรายงานเมื่อวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๕๔ อีกว่า ทหารกัมพูชาในทุกระดับได้รับคำสั่งให้ปฏิเสธการติดต่อหรือพูดคุยโดยตรงกับฝ่ายไทย
๖. กระทรวงฯ ขอยืนยันอย่างแน่วแน่ว่าฝ่ายไทยไม่เคยเปิดฉากการยิงก่อนและใช้ความอดกลั้นอย่างที่สุด อย่างไรก็ดี การดำเนินการรุกรานโดยฝ่ายกัมพูชาทำให้ประเทศไทยไม่มีทางเลือกนอกจากต้องปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดน โดยใช้วิธีการที่สมน้ำสมเนื้อ ตามความจำเป็น ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ และมุ่งไปยังเป้าหมายทางทหารเท่านั้น
๗. ประเทศไทยขอประท้วงอย่างรุนแรงที่สุดอีกครั้งหนึ่งต่อการโจมตีด้วยอาวุธอีกครั้งโดยกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและกฎบัตรสหประชาชาติอย่างชัดเจน ดังนั้น ประเทศไทยจึงขอประณามอย่างรุนแรงต่อการรุกรานข้างต้นทั้งหมดของฝ่ายกัมพูชา และเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาแก้ไขข้อขัดแย้งผ่านการเจรจาโดยสันติภายใต้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่
๘. ประเทศไทยได้สั่งการให้คณะผู้แทนทางการทูตไทยทั้งหมดแจ้งให้รัฐบาลประเทศผู้รับได้ทราบด้วยแล้ว
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--