เมื่อวันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๔ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิภายหลังจากลงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาที่จังหวัดสุรินทร์ สรุปได้ว่า ฝ่ายกัมพูชายังคงไม่ยุติการโจมตี และไม่ยอมรับข้อเสนอของไทยที่มีมาตลอดให้มีการเจรจาสองฝ่ายในทุกระดับ ที่ผ่านมาทุกครั้งเมื่อมีการปะทะกัน ก็จะมีการติดต่อประสานเพื่อเจรจา แต่ครั้งนี้ไม่มีการติดต่อจากฝ่ายกัมพูชา และกัมพูชาก็ปฏิเสธที่จะพูดคุยกับไทยในระดับท้องถิ่น และยังคงยิงอาวุธใส่ไทย รวมทั้งใช้อาวุธหนัก อาทิ ปืนครกและปืนใหญ่ สำหรับไทย สิ่งสำคัญคือ ชีวิตความเป็นอยู่และความปลอดภัยของประชาชนตลอดบริเวณชายแดน ซึ่งขณะนี้ประชาชนต้องอพยพออกจากพื้นที่กว่า ๓๐,๐๐๐ คนในจังหวัดสุรินทร์และจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งจะปล่อยสภาพให้เป็นไปเช่นนี้อีกไม่ได้ ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องมีการทบทวนการดำเนินนโยบายกับกัมพูชาทั้งหมด โดยเอาความปลอดภัยและความผาสุกของประชาชนเป็นที่ตั้ง ขณะเดียวกันก็เป็นห่วงประชาชนกัมพูชา รวมถึงครอบครัวของกองกำลังกัมพูชาที่ปกติมักจะติดตามมาอยู่ด้วย ซึ่งก็ไม่ต้องการให้ต้องมาประสบความยากลำบากและกลายเป็นเหมือนโล่กำบัง ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน การเอาสตรีและเด็กเหล่านี้เข้ามาเกี่ยวข้องเป็นสิ่งที่ไม่พึงกระทำของประเทศอารยะ
รัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวต่อไปว่า ในระหว่างการลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ได้พบกับทหาร หน่วยงานฝ่ายปกครอง รวมทั้งประชาชนในท้องที่ซึ่งต้องการกลับบ้านและอยู่อย่างปกติสุข ไทยจะปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้เกิดขึ้นตลอดแนวชายแดนกว่า ๘๐๐ กิโลเมตรไม่ได้ ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ จะได้หารือกับ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อทบทวนนโยบายและท่าทีทั้งหมดต่อฝ่ายกัมพูชา ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ไทยพยายามไม่ให้เรื่องหนึ่งไปโยงกับอีกเรื่องหนึ่ง แต่การกระทำของกัมพูชาครั้งนี้เป็นการจงใจ มีการรุกคืบเข้ามาหลายวัน ก่อนหน้าที่จะมีการปะทะกัน มีการขุดสนามเพลาะ เมื่อฝ่ายไทยส่งทหารเข้าไปเจรจาก็ถูกยิง เป็นการกระทำที่เกินวิสัยของมิตรประเทศ แต่ตั้งท่าเป็นศัตรูและมุ่งเผชิญหน้า ซึ่งก็ต้องแจ้งให้ประเทศอาเซียนรับทราบพฤติกรรมและท่าทีเช่นนี้ด้วย เพราะนอกจากจะเป็นการสร้างภาระให้อาเซียนโดยใช่เหตุแทนที่จะร่วมมือกันสร้างประชาคม ยังพยายามดึงสหประชาชาติเข้ามาด้วย ซึ่งเป็นผลจากคนเพียงไม่กี่คนในกรุงพนมเปP
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--