รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๑๘ ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย

ข่าวต่างประเทศ Monday May 9, 2011 11:34 —กระทรวงการต่างประเทศ

เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๕๔ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเกี่ยวกับภารกิจในการเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศ และการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๑๘ ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ ๕ — ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๔ สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้

๑. รัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวว่า ในการเดินทางเยือนอินโดนีเซียครั้งนี้ มีภารกิจเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศ ๒ รายการ ได้แก่ การประชุม ASEAN Coordinating Council (ACC) เพื่อเตรียมการสำหรับการประชุมในระดับผู้นำ โดย ACC จะสรุปประมวลผลงานต่าง ๆ ของอาเซียนทั้งในด้านการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม รวมทั้งการบริหารงานของสำนักเลขาธิการอาเซียน เพื่อรายงานต่อผู้นำอาเซียน ร่วมกับ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน

อีกการประชุมหนึ่ง คือ การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ซึ่งจะหารือเพื่อทบทวนความร่วมมือในกรอบอาเซียน ท่าทีของอาเซียนต่อประเทศคู่เจรจา รวมถึงแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นปัญหาของภูมิภาคและของโลก นอกจากนี้ ยังจะหารือเกี่ยวกับความคืบหน้าในการทำงานของสำนักเลขาธิการอาเซียน และทบทวนสถานะของความคืบหน้าในการดำเนินไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในอีก ๔ ปีข้างหน้าด้วย

๒. สำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียนที่นายกรัฐมนตรีมีกำหนดจะเข้าร่วมในวันที่ ๗-๘ พฤษภาคมนั้น ประเด็นสำคัญที่จะหารือ ได้แก่ ความคืบหน้าของอาเซียน และการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นปัญหาในระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ โดยภายหลังการประชุมดังกล่าว ผู้นำอาเซียนจะมีถ้อยแถลงร่วม (Joint Statement)

๓. รัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวด้วยว่า มีกำหนดที่จะพบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซียในเรื่องไทย-กัมพูชา ซึ่งก็จะเป็นโอกาสที่จะได้แจ้งให้ทราบว่า คณะรัฐมนตรีของไทยได้เห็นชอบในหลักการต่อร่างข้อกำหนดอำนาจหน้าที่ (TOR) สำหรับคณะผู้สังเกตการณ์ชาวอินโดนีเซียแล้วเมื่อวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๕๔ นอกจากนี้ ตามที่ได้ตกลงกันไว้ทางวาจา ก็อาจจะมีโอกาสพบกับนาย ฮอร์ นัม ฮง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซียก็ได้เสนอให้รัฐมนตรีว่าการฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาพูดคุยกันอย่างไม่เป็นทางการด้วย ทั้งนี้ ในการตอบคำถามของผู้สื่อข่าว รัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวว่า ในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งนี้ ประเด็นความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาไม่ได้เป็นเพียงประเด็นเดียวที่หลายฝ่ายจับจ้องอยู่ แต่ยังคงมีประเด็นปัญหาอื่นๆ ที่จะมีการหารือกัน อาทิ สถานการณ์ในตะวันออกกลาง การก่อการร้าย ปัญหาโจรสลัด ปัญหาในทะเลจีนใต้ เกาหลี ตลอดจนภัยพิบัติต่าง ๆ ทั้งนี้ คาดว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย ในฐานะผู้อำนวยความสะดวกในประเด็นปัญหาไทย-กัมพูชา คงจะรายงานเกี่ยวกับการช่วยสนับสนุนการจัดการสำหรับการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ที่เมืองโบกอร์ ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ ๗-๘ เมษายนที่ผ่านมา และสถานะของข้อกำหนดอำนาจหน้าที่ (TOR) สำหรับคณะผู้สังเกตการณ์อินโดนีเซีย

๔. รัฐมนตรีว่าการฯ ได้ย้ำถึงนโยบายของรัฐบาลไทยที่มุ่งเน้นความร่วมมือในทุก ๆ ด้านกับกัมพูชาในทุกกรอบและทุกเวทีที่ไทยเป็นสมาชิกร่วมกับกัมพูชา ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าไทยปรารถนาที่จะเห็นสันติภาพและความเจริญมั่งคั่งร่วมกันของไทยและกัมพูชา รวมทั้งยืนยันว่าไทยพร้อมที่จะเจรจาผ่านกลไกระดับทวิภาคีที่มีอยู่ และได้ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง โดยไม่ได้โยงปัญหานี้เข้ากับเรื่องอื่น ๆ หรือนำปัญหาไปสู่เวทีอื่น ๆรัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวด้วยว่า การดำเนินการในประเทศไทยต้องมีการปรึกษาหารือกับรัฐสภา มีการชี้แจงต่อหน่วยราชการ กระบวนการทางการเมืองและประชาชนอยู่ตลอด และถึงแม้จะมีปัญหา แต่ก็มีการเตรียมการอยู่ตลอดเวลาโดยตนเพิ่งเดินทางกลับจากนครเจนีวาเพื่อไปหารือกับที่ปรึกษากฎหมายของไทยในเรื่องที่ฝ่ายกัมพูชายื่นคำขอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร อย่างไรก็ดี ฝ่ายไทยก็ยังคงมุ่งหวังว่าผู้นำกัมพูชาจะกลับสู่โต๊ะเจรจาเพื่อร่วมกันเสริมสร้างความสัมพันธ์และประชาคมอาเซียน

กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ