รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยืนยันยูเนสโกเข้าใจไทยเกี่ยวกับการเลื่อนการพิจารณาแผนบริหารจัดการบริเวณปราสาทพระวิหาร ย้ำความพร้อมสู้คดีศาลโลกตีความคำพิพากษา

ข่าวต่างประเทศ Monday May 30, 2011 14:27 —กระทรวงการต่างประเทศ

เมื่อวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๔ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับการหารือระหว่างนายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กับนาง Irina Bokova ผู้อำนวยการใหญ่องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม (ยูเนสโก) ระหว่างวันที่ ๒๕-๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ว่า ผลจากการพบปะเป็นไปในเชิงบวก ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ยูเนสโกมีความเข้าใจและรับทราบเหตุและผลของไทยมากขึ้นเกี่ยวกับความจำเป็นที่คณะกรรมการมรดกโลกจะต้องเลื่อนการพิจารณาแผนบริหารจัดการบริเวณปราสาทพระวิหารของฝ่ายกัมพูชา เนื่องจากการเจรจาเขตแดนยังไม่แล้วเสร็จ รวมทั้งว่า ในระยะยาว น่าจะเป็นเรื่องของการขึ้นทะเบียนปราสาทฯ ร่วมกันแบบข้ามเขตแดน (transboundary application) ซึ่งไทยก็เคยเสนอต่อกัมพูชาและยูเนสโกแล้วว่า การขึ้นทะเบียนปราสาทฯ ไม่ควรเป็นการขึ้นทะเบียนฝ่ายเดียว เพราะปราสาทฯ ตั้งอยู่ในบริเวณที่คาบเกี่ยวระหว่างสองประเทศ แต่เท่าที่ทราบในชั้นนี้ ฝ่ายกัมพูชายังยืนยันให้ยูเนสโกมีการพิจารณาเรื่องแผนบริหารจัดการฯ ซึ่งคงต้องหารือกันเพิ่มเติมว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ทั้งนี้ การพบปะระหว่างไทยกับกัมพูชาที่ผ่านมามีฝ่ายยูเนสโกเข้าร่วมอยู่ด้วย

สำหรับเรื่องการส่งผู้สังเกตการณ์ชาวอินโดนีเซีย (Indonesian Observers Team: IOT) เข้ามาบริเวณชายแดนนั้น รัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวว่า ได้พบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซียเมื่อวันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๔ และหารือกันในประเด็นต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ กล่าวคือ การให้ฝ่ายอินโดนีเซียส่งคณะสำรวจ (survey team) เข้ามาเตรียมการล่วงหน้า และการกำหนดวันประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งหากมีความคืบหน้าในการประชุมเกี่ยวกับการถอนกำลังทหารในพื้นที่ปราสาทพระวิหาร วัดแก้วสิกขาคีรีสะวารา ตลาด และชุมชน และฝ่ายกัมพูชาได้ปฏิบัติเงื่อนไขดังกล่าวแล้ว ก็จะได้สามารถลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยนเพื่ออำนวยให้ผู้สังเกตการณ์ชาวอินโดนีเซียเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นไปตามที่มีการตกลงกันระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของไทย กัมพูชา และอินโดนีเซียเมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอให้ฝ่ายอินโดนีเซียตอบรับว่าจะส่งคณะสำรวจมาชายแดนไทยมาเมื่อไร

รัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระบวนการเจรจาต่าง ๆ มีความคืบหน้าอย่างมาก โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของทั้งสองประเทศได้หารือกันและแจ้งให้ฝ่ายอินโดนีเซียทราบด้วยแล้ว ซึ่งเมื่อฝ่ายอินโดนีเซียส่งคณะสำรวจมายังชายแดนแล้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะได้กำหนดวันประชุมโดยเร็ว ซึ่งในเบื้องต้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชาเห็นชอบที่จะให้มีการประชุม GBC แล้ว ดังนั้น ขณะนี้เรื่องของการปรับกำลังจึงอยู่ในภาระหน้าที่ของกระทรวงกลาโหมที่จะหารือกันในกรอบของ GBC ต่อไป

สำหรับกรณีที่กัมพูชาได้ยื่นคำร้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ให้ตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร รวมทั้งขอให้ศาลออกมาตรการชั่วคราวระหว่างรอการตีความนั้น รัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวว่า ฝ่ายไทยได้เตรียมการมาพอสมควร ทั้งในเรื่องของเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษร ภาพถ่าย และภาพเคลื่อนไหว พร้อมคำชี้แจงเกี่ยวกับความเป็นมา โดยได้ทำการค้นคว้าข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ทั้งสหประชาชาติและหอจดหมายเหตุ และจะทำการค้นคว้าต่อไป รวมทั้งได้มีการหารือกับที่ปรึกษากฎหมายระหว่างประเทศมาโดยตลอด ทั้งนี้ ยืนยันว่า ไทยได้ปฏิบัติในทุกข้อตามคำพิพากษาของศาลโลกแล้ว

กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ