การเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. ๑๙๘๒ และ ความตกลงเกี่ยวกับการอนุวัติภาค ๑๑ ของอนุสัญญาฯ

ข่าวต่างประเทศ Thursday June 16, 2011 15:16 —กระทรวงการต่างประเทศ

ตามที่ที่ประชุมร่วมของรัฐสภาครั้งที่ ๖ สมัยสามัญทั่วไป เมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๕๔ ได้พิจารณาและลงมติให้ความเห็นชอบการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. ๑๙๘๒ และความตกลงเกี่ยวกับการอนุวัติภาค ๑๑ ของอนุสัญญาฯ โดยใช้แนวทางการจัดทำคำประกาศตามข้อ ๓๑๐ ของอนุสัญญาฯ ซึ่งเป็นกลไกของอนุสัญญาฯ ที่ให้โอกาสไทยพิจารณาทบทวนกฎหมายและข้อบังคับภายในของตน เพื่อให้สอดคล้องกับอนุสัญญาฯ อย่างค่อยเป็นค่อยไป รวมทั้งประกาศแสดงท่าทีเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศไทยในเรื่องต่างๆ รวมทั้งจัดทำคำประกาศยกเว้นการนำข้อพิพาทบางประเภท โดยเฉพาะข้อพิพาทเกี่ยวกับเขตทางทะเลเข้าสู่กลไกระงับข้อพิพาทภาคบังคับ ซึ่งมีคำวินิจฉัยที่มีผลบังคับตามข้อ ๒๙๘ ของอนุสัญญาฯ

ต่อมากระทรวงการต่างประเทศจึงได้ยื่นสัตยาบันสารสำหรับการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาฯ และภาคยานุวัติสารความตกลงว่าด้วยการอนุวัติภาค ๑๑ ของอนุสัญญาฯ โดยการจัดทำคำประกาศดังกล่าวข้างต้นแล้ว เมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๔ โดยอนุสัญญาฯ จะมีผลใช้บังคับกับประเทศไทยในวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๔ นี้ ตามนัยของข้อ ๓๐๘ (๒) ของอนุสัญญาฯ

การเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาฯ และความตกลงว่าด้วยการอนุวัติภาค ๑๑ ของอนุสัญญาฯ มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ภายหลังจากที่ไทยได้ลงนามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. ๑๙๘๒ ในวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๒๕ เพราะเป็นก้าวย่างสำคัญสำหรับไทยในการมีส่วนร่วมในตราสารระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นที่ยอมรับว่าเป็นธรรมนูญทางทะเล ที่วางหลักกฎหมายระหว่างประเทศเกี่ยวกับทะเล และการดำเนินกิจกรรมทางทะเลในทุกมิติ กล่าวคือ อำนาจ หน้าที่ และสิทธิของรัฐในเขตทางทะเลต่างๆ ได้แก่ น่านน้ำภายใน ทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่อง เขตเศรษฐกิจจำเพาะ ไหล่ทวีป ทะเลหลวง สิทธิหน้าที่ของรัฐชายฝั่ง รัฐอื่น และเรือที่ใช้สิทธิผ่านในน่านน้ำ นอกจากนี้ ยังกำหนดสิทธิของรัฐในการแสวงประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมทางทะเล ซึ่งจะทำให้ไทยสามารถปกป้องและคุ้มครองสิทธิของไทยอันพึงมีตามอนุสัญญาฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเสริมสร้างภาพลักษณ์ และยกระดับบทบาทของไทยในเวทีภูมิภาคและพหุภาคีอีกด้วย

นอกจากนี้ เพื่อให้เป็นไปตามคำประกาศตามข้อ ๓๑๐ ที่ไทยได้แจ้งต่อสหประชาชาติ คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๕๓ มอบหมายให้คณะกรรมการกฎหมายทะเลและเขตทางทะเลของประเทศไทย ซึ่งมีปลัดกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธาน ทำหน้าที่เป็นกลไกประสานงานส่วนราชการเพื่อติดตาม กำกับ และสนับสนุนหน่วยงานต่างๆ ที่รับผิดชอบด้านการพัฒนาหรือออกกฎหมายให้สอดคล้องกับอนุสัญญาฯ ต่อไป

อนึ่ง เพื่อเตรียมความพร้อมและพัฒนาบุคลากรของไทยในเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ ๑๑ - ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๔ กระทรวงการต่างประเทศได้จัดโครงการเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับอนุสัญญาฯ ให้แก่บุคลากรภาครัฐที่เกี่ยวข้องในหัวข้อ “Declarations, Settlement of Disputes and Enforcement of decisions under the United Nations Convention on the Law of the Sea 1982” โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายทะเลของสหประชาชาติเข้าร่วมเป็นวิทยากร

กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ