ระหว่างวันที่ ๑๙ — ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๕๔ นางจิตริยา ปิ่นทอง รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศและเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนฝ่ายไทย จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ ๔๔ และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง (44th ASEAN Ministerial Meeting: AMM) ณ เมืองบาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย
ภายหลังจากเสร็จสิ้นการประชุม AMM รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศและคณะผู้แทนไทยจะเข้าร่วมในการประชุมอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ๑๐ ประเทศ (Post Ministerial Meeting: PMC) ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐฯ แคนาดา รัสเซีย และสหภาพยุโรป รวมทั้งการประชุมอื่นๆ ได้แก่ การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน+๓ การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศสำหรับการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก และการประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (18th ASEAN Regional Forum: ARF)
สำหรับพัฒนาการสำคัญของการประชุมในครั้งนี้ คือ เป็นครั้งแรกที่สหรัฐอเมริกาและรัสเซียจะเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศสำหรับการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ภายหลังจากที่ทั้งสองประเทศได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกเมื่อปีที่แล้ว ทั้งนี้ เพื่อปูทางสำหรับการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ครั้งที่ ๖ ที่เมืองบาหลี ในเดือนพฤศจิกายน ศกนี้
ประเด็นสำคัญที่คาดว่าจะมีการหยิบยกในครั้งนี้ คือ การส่งเสริมความร่วมมืออาเซียน ใน ๓ มิติ ได้แก่
๑. การส่งเสริมการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน กล่าวคือ จะมีการประเมินผลการปฎิบัติตามแผนงานการจัดตั้งประชาคมอาเซียนทั้งสามเสา การส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน การเผชิญหน้ากับความท้าทายต่างๆ ในภูมิภาค เช่น ความมั่นคงทางทะเล และการบริหารจัดการภัยพิบัติ
๒. การส่งเสริมโครงสร้างสถาปัตยกรรมในภูมิภาคที่มีอาเซียนเป็นศูนย์กลาง และการดำเนินความสัมพันธ์กับโลกภายนอก ซึ่งจะมีการวางยุทธศาสตร์ร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก และส่งเสริมความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมกับประเทศคู่เจรจาต่างๆ ที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน
๓. การเสริมสร้างบทบาทของอาเซียนในเวทีโลก ซึ่งสะท้อนอยู่อย่างชัดเจนใน theme ซึ่งอินโดนีเซียใช้สำหรับการเป็นประธานอาเซียนในปีนี้ กล่าวคือ “The ASEAN Community in a Global Community of Nations” โดยในการประชุมครั้งนี้ จะมีการพิจารณาแนวทางการสร้างหุ้นส่วนอย่างรอบด้านระหว่างอาเซียนกับสหประชาชาติ
ประเด็นที่ไทยให้ความสำคัญ ได้แก่
๑. การสานต่อนโยบายที่สนับสนุนการสร้างประชาคมอาเซียนที่มีประสิทธิภาพและมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง
๒. การสร้างความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน โดยปฏิบัติตามแผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน และโน้มน้าวให้ประเทศคู่เจรจาสนับสนุนโครงการต่างๆ ภายใต้แผนแม่บทฯ เพื่อปูทางไปสู่การสร้างความเชื่อมโยงกับประเทศอื่นๆ นอกภูมิภาค หรือที่เรียกว่า Connectivity Plus
๓. การเสริมสร้างความแข็งแกร่งของอาเซียน เพื่อเผชิญกับความท้าทายในรูปแบบใหม่ต่างๆ เช่น การบริหารจัดการภัยพิบัติ และความมั่นคงทางทะเล เป็นต้น ในส่วนของการบริหารจัดการภัยพิบัติ ไทยพยายามชูบทบาทของ Asian Disaster Preparedness Centre (ADPC) ซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะในเรื่องของการเสริมสร้างขีดความสามารถ เกี่ยวกับความมั่นคงทางทะเล ไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุม ASEAN Maritime Forum ครั้งที่ ๒ ระหว่างวันที่ ๑๘ - ๒๐ สิงหาคม ศกนี้ ทั้งนี้ เพื่อช่วยแก้ไขภัยคุกคามจากโจรสลัดที่มีความเสี่ยงที่จะขยายเข้ามาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
๔. การสร้างความตระหนักรู้เรื่องอาเซียน และอัตลักษณ์อาเซียนผ่านการศึกษาและกิจกรรมวัฒนธรรม
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--