เมื่อวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๕๔ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ ๖๖ โดยได้ร่วมฟังการกล่าวสุนทรพจน์ของนาย Nassir Abdulaziz Al-Nasser เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรกาตาร์ประจำสหประชาชาติ ในฐานะประธานสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่ ๖๖ เลขาธิการสหประชาชาติ ประธานาธิบดีบราซิล ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และเจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ ตามลำดับ และได้เข้าร่วมการหารือทวิภาคีกับ ดาโต๊ะ ซรี อานิฟาห์ บิน ฮัจญี อามาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย และนาย Yury Fedotov ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ โดยมีประเด็นสำคัญ ดังนี้
๑. ในการหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซียนั้น รัฐมนตรีว่าการฯ ได้ย้ำถึงนโยบายของรัฐบาลไทยในการให้ความสำคัญกับประเทศเพื่อนบ้าน ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้แจ้งความพร้อมของไทยที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือไทย - มาเลเซีย (Joint Commission — JC) ครั้งที่ ๑๒ และคณะกรรมการร่วมว่าด้วยยุทธศาสตร์การพัฒนาร่วมสำหรับพื้นที่ชายแดนไทย - มาเลเซีย (Joint Development Strategy — JDS) ครั้งที่ ๓ ภายในปีนี้ เพื่อเตรียมการสำหรับการประชุมหารือประจำปี ครั้งที่ ๕ ระหว่างนายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศที่มาเลเซียจะเป็นเจ้าภาพ รวมทั้งได้หยิบยกเรื่องร่างความตกลงว่าด้วยการเดินทางข้ามแดน (Agreement on Border Crossing) ฉบับปรับปรุงจากความตกลงฯ ปี ๒๔๘๓ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางไปมาหาสู่ของประชาชนทั้งสองประเทศ
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้แสดงความเสียใจต่อกรณีการเสียชีวิตของชาวมาเลเซีย ๔ คนจากเหตุการณ์ระเบิดในเมืองสุไหงโกลก จ. นราธิวาส เมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ศกนี้ พร้อมแสดงความขอบคุณที่มาเลเซียได้ให้ความร่วมมือกับไทยในการแก้ไขปัญหา ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เกี่ยวกับเรื่องนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซียยืนยันว่า ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาภายในของไทย ซึ่งมาเลเซียพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับไทยในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
๒. สำหรับการหารือทวิภาคีกับนาย Yury Fedotov ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) นั้น รัฐมนตรีว่าการฯ ได้แจ้งให้ผู้อำนวยการใหญ่ฯ ทราบเกี่ยวกับนโยบายของไทยในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมต่าง ๆ และความสำคัญที่ไทยให้กับการต่อต้านการทุจริต ซึ่งไทยได้เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต เมื่อเดือนมีนาคม ศกนี้ นอกจากนี้ ได้มีการหารือในเรื่อง ข้อกำหนดกรุงเทพฯ (Bangkok Rules) หรือข้อกำหนดสหประชาชาติสำหรับการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิงในเรือนจำและมาตรการที่มิใช่การคุมขังสำหรับผู้กระทำผิดหญิง ซึ่งเกิดจากโครงการ Enhancing Lives of Female Inmates (ELFI) ในพระราชดำริของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ที่ได้รับการรับรองจากที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยที่ ๖๕ ซึ่ง UNODC ได้ให้การสนับสนุน
ในการนี้ ผู้อำนวยการใหญ่ฯ ได้แจ้งให้ฝ่ายไทยทราบว่า ตนจะเดินทางเยือนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประสงค์ที่จะเดินทางเยือนประเทศไทยในโอกาสดังกล่าวเพื่อพบปะกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องของไทย ตลอดจนเยี่ยมสำนักงาน UNODC ที่กรุงเทพฯ ซึ่งดูแลโครงการต่าง ๆ ในภูมิภาคด้วย รวมทั้งขอชื่นชมบทบาทนำของไทยในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะบทบาทของ ดร. สายสุรี จุติกุล ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการค้ามนุษย์ของไทย ซึ่งได้รับเลือกเป็นสมาชิกคณะกรรมการของกองทุนสหประชาชาติ เพื่อให้ความช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะสตรีและเด็ก และพร้อมที่จะดำเนินกิจกรรมร่วมกับไทยในเรื่องนี้ต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--