เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2554 นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าว กรณีมีข่าวว่ามีการปรับเปลี่ยนโยกย้ายตำแหน่งสำคัญของกระทรวงการต่างประเทศ สาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
รัฐมนตรีว่าการฯ แจ้งว่า เมื่อสองสัปดาห์ก่อนได้เสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่องการเปลี่ยนตัวประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย -กัมพูชา (เจบีซี) (ฝ่ายไทย) จาก นายอัษฎา ชัยนาม เป็นนายบัณฑิต โสตถิพลาฤทธิ์ และที่ปรึกษาเจบีซีจากนายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮก และนายชาตรี อรรถจานันท์ ผู้อำนวยการกองกฎหมาย เป็นนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย เอกอัครราชทูต ณ กรุงมะนิลา และนายณัฐฏวุฒิ โพธิสาโร เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ตามลำดับ
นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนตัวประธานคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิคไทย-กัมพูชาจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และที่ปรึกษาคณะกรรมการฯ จากนายเกรียงศักดิ์ กิตติชัยเสรี เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอรา เป็นนายพรชัย ด่านวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมอาเซียน
ทั้งนี้ เป็นการเปลี่ยนแปลง 2 คณะกรรมการจาก 50 กว่าคณะกรรมการที่คณะรัฐมนตรีได้สอบถามกระทรวงการต่างประเทศเพื่อให้ยืนยัน/ปรับแก้ไข และรัฐมนตรีว่าการฯ เห็นว่าการปรับเปลี่ยนลักษณะนี้แป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นทุกยุคทุกสมัยและในทุกกระทรวง ส่วนหนึ่งขอการปรับที่ปรึกษาใน ครั้งนี้ เพราะ 2 ปีที่ผ่านมา การทำงานไม่มีความคืบหน้า รัฐมนตรีว่าการฯ จึงหวังว่าการปรับเปลี่ยนทีมงานจะนำไปสู่ความคืบหน้าในการเจรจาต่อไป
รัฐมนตรีว่าการฯ ได้ยืนยันว่า ในส่วนของคณะดำเนินคดีกรณีที่กัมพูชายื่นขอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ตีความคำพิพากษาเดิมเมื่อปี 2505 นั้น กระทรวงการต่างประเทศยังใช้คณะดำเนินคดีเดิมทั้งหมดตั้งแต่ นายวีรชัยฯ ในฐานะตัวแทนรัฐบาลไทยและทีมที่ปรึกษากฎหมายชาวต่างชาติ เพราะคณะดำเนินคดีชุดนี้ได้ติดตามเรื่องมาโดยตลอดและรับทราบข้อมูลทั้งหมดแล้ว และเพื่อให้การดำเนินการมีความต่อเนื่องและไม่เกิดอุปสรรคในการต่อสู้คดี
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้ชี้แจงความคืบหน้าเรื่องบันทึกความเข้าใจว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน ปี 2544 ที่รัฐบาลชุดที่แล้วได้ประกาศยกเลิกไปว่า จำเป็นต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง เนื่องจากรัฐบาลชุดที่แล้ว ยังไม่ได้แจ้งฝ่ายกัมพูชาอย่างเป็นทางการ จึงจำเป็นต้องให้คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง และยืนยันว่าจะดำเนินงานอย่างเปิดเผย โดยจะคำนึงถึงประโยชน์ประเทศชาติเป็นหลัก
รัฐมนตรีว่าการฯ ได้แจ้งด้วยว่า ในส่วนของการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศนั้น อยู่ระหว่างการพิจารณา โดยจะดำเนินการในส่วนของตำแหน่งที่ต้องไปทดแทนข้าราชการที่เกษียณอายุราชการก่อน โดยยึดหลักอาวุโสและให้มีการปรับเปลี่ยนจากประเทศกำลังพัฒนาไปประจำการในประเทศพัฒนาแล้วเป็นหลัก ส่วนการปรับเปลี่ยนโยกย้ายทั้งหมดน่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปีนี้
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--