เมื่อวันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๕๔ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับประธานสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ ๖๖ และเลขาธิการสหประชาชาติ รวมทั้งการประชุมระดับรัฐมนตรีของกลุ่มเพื่อนเลขาธิการสหประชาชาติเรื่องเมียนมาร์ (Group of Friends (GoF) of UNSG on Myanmar) โดยมีประเด็นสำคัญสรุปได้ ดังนี้
ในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับนาย Nassir Abdulaziz Al-Nasser เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรกาตาร์ประจำสหประชาชาติ ในฐานะประธานสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ ๖๖ และนายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ นั้น รัฐมนตรีว่าการฯ ได้รับมอบหมายจากประเทศสมาชิกอาเซียนให้เป็นผู้กล่าวนำในเรื่องการรักษาสันติภาพ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการฯ ได้ย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับสหประชาชาติในการรักษาสันติภาพ โดยจนถึงปัจจุบัน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารของประเทศสมาชิกอาเซียนกว่า ๕,๐๐๐ นาย เข้าร่วมกิจกรรมรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ และอาเซียนก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือในด้านนี้ต่อไป
รัฐมนตรีว่าการฯ ได้กล่าวยืนยันว่า อาเซียนให้ความสำคัญกับมาตรการอื่นๆ ในการแก้ไขปัญหาข้อพิพาท เช่น การไกล่เกลี่ย การสังเกตการณ์การปฏิบัติตามความตกลงสันติภาพต่างๆ การแก้ไขข้อพิพาทอย่างสันติ และการสร้างสันติภาพหลังความขัดแย้งยุติลง ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้งโดยสันติวิธี และจะนำไปสู่สันติภาพอย่างยั่งยืน รวมทั้งแจ้งฝ่ายสหประชาชาติทราบว่า ในระดับภูมิภาคนั้น อาเซียนกำลังพิจารณาจัดตั้งเครือข่ายระหว่างศูนย์รักษาสันติภาพที่มีอยู่ในปัจจุบันในประเทศอาเซียนต่างๆ เพื่อดำเนินกิจกรรมทางด้านฝึกอบรมและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และในระยะยาวนั้น อาเซียนอาจจะศึกษาความเป็นไปได้ของการจัดตั้งกลไกสำรอง (standby arrangements) ภายใต้กรอบของอาเซียนเพื่อสนับสนุนกิจกรรมรักษาสันติภาพในอนาคต
นอกจากนี้ ในฐานะที่ไทยเป็นที่ตั้งของสำนักงานส่วนภูมิภาคของหลายองค์กรภายใต้สหประชาชาติและองค์การระหว่างประเทศอื่นๆ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้แสดงความพร้อมของไทยที่จะปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประสานงานด้านสันติภาพและในประเด็นอื่นๆ ที่อยู่ในความสนใจร่วมกันของอาเซียนและสหประชาชาติอีกด้วย
สำหรับการประชุมระดับรัฐมนตรีของกลุ่มเพื่อนเลขาธิการสหประชาชาติเรื่องเมียนมาร์ (Group of Friends (GoF) of UNSG on Myanmar) นั้น เป็นเวที เพื่อร่วมหารือเกี่ยวกับแนวทางที่สหประชาชาติและประเทศต่างๆ สามารถช่วยผลักดันให้เมียนมาร์มีพัฒนาการภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยในที่ประชุมดังกล่าว รัฐมนตรีว่าการฯ ได้ชี้แจงว่า ที่ผ่านมาเมียนมาร์มีพัฒนาการทางบวกอย่างต่อเนื่อง ประชาคมระหว่างประเทศควรต้องช่วยกันส่งเสริมให้พัฒนาการดังกล่าวดำเนินต่อไปโดยไม่หันหลังกลับ ซึ่งไทยเห็นว่า ประชาคมระหว่างประเทศ โดยการสนับสนุนจากเลขาธิการสหประชาชาติ และองค์กรที่เกี่ยวข้องของสหประชาชาติ ควรเน้นการช่วยเหลือเพื่อกระจายการพัฒนาไปสู่ประชาชนเมียนมาร์ให้เท่าเทียมกันใน ๓ ด้านหลัก ได้แก่ รายได้ สาธารณสุข และการศึกษา ซึ่งที่ผ่านมา ไทยมีบทบาทในการให้ ความช่วยเหลือในด้านเหล่านี้มาโดยตลอด และพร้อมเดินหน้าต่อไป รวมทั้งพร้อมร่วมมือกับประเทศอื่นๆ ที่สนใจด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--