เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๕๔ นางคริสตี้ เคนเนย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยสองฝ่ายได้หารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นระหว่างกันอย่างกว้างขวางในประเด็นต่าง ๆ อาทิ ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ ผลการเยือนเมียนมาร์และกัมพูชาของนายกรัฐมนตรี และบทบาทของไทยในเวทีอาเซียน
ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ได้กล่าวขอบคุณรัฐมนตรีว่าการฯ ที่เดินทางไปเยือนนครนิวยอร์กเพื่อเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ ๖๖ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยสหรัฐฯ ยินดีต้อนรับรัฐมนตรีว่าการฯ อีกครั้งช่วงเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๔ ในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (APEC Leaders’ Meeting 2011) ที่มลรัฐฮาวาย นอกจากนี้แล้ว เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ยังได้กล่าวขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศที่ได้ช่วยประสานการเยือนของนายวิลเลี่ยม บราวน์ฟีลด์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กำกับดูแลสำนักงานกิจการยาเสพติดและการบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา และพร้อมทำงานร่วมกันอีกครั้งช่วงการเยือนของนายเคิร์ท แคมป์เบลล์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ในช่วงสัปดาห์หน้า
สำหรับภาพรวมความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ นั้น เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ กล่าวว่า ไทยและสหรัฐฯ เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกันอย่างแท้จริง โครงการความร่วมมือระหว่างไทย-สหรัฐฯ อาทิ Thailand-US Creative Partnership ความร่วมมือในกรอบลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่าง ความร่วมมือด้านการผลิตวัคซีนสำหรับไข้เลือดออก/โรคเอดส์ และความร่วมมือด้านมนุษยธรรมต่าง ๆ นอกจากจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นแล้ว ยังเอื้อประโยชน์ต่อประชาชนในประเทศเพื่อนบ้านของไทยอีกด้วย ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ จึงเสนอให้มีการจัดการประชุม 4th Thai-US Strategic Partnership เพื่อทบทวนภาพรวมความสัมพันธ์ระหว่างกันอย่างรอบด้าน พร้อมหาช่องทางเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันให้มากขึ้น
อนึ่ง รัฐมนตรีว่าการฯ ได้ใช้โอกาสนี้แจ้งให้เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ทราบถึงผลการเยือนสหภาพเมียนมาร์ของนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีการหารือกับ พล.อ.เต็ง เส่ง ประธานาธิบดีสหภาพเมียนมาร์ เกี่ยวปัญหาแรงงาน ปัญหายาเสพติด การให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ผู้หนีภัยการสู้รบบริเวณชายแดน การพัฒนาท่าเรือน้ำลึกทวาย การพัฒนานิคมอุตสาหกรรมบริเวณชายแดน การเปิดด่านแม่สอด-เมียวดี และช่องทางสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาร์ การยกระดับด่านสิงขร-มู่ด่อง และด่านพุน้ำร้อน-แม่ธะมี่ ให้เป็นด่านสากล ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ ได้แสดงความยินดีต่อความสำเร็จของการเยือนเมียนมาร์
ต่อข้อซักถามเกี่ยวกับผลการเยือนกัมพูชาของนายกรัฐมนตรี นั้น รัฐมนตรีว่าการฯ ได้กล่าวว่า ภายหลังการเยือนฯ ความสัมพันธ์สองฝ่ายดีขึ้นมากตามลำดับ ด้านความร่วมมือทางการค้าและการลงทุน นั้น ยังคงมีต่อเนื่อง ในการนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้กล่าวแสดงความยินดีกับไทยที่สามารถฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้เป็นปกติได้
ในประเด็นความร่วมมือในอาเซียน นั้น รัฐมนตรีว่าการฯ ได้แจ้งให้เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ฟังว่า ไทยอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมสำหรับการเป็นประชาคมอาเซียนในปี ๒๕๕๘ โดยรัฐมนตรีว่าการฯ จะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเน้นหลักสูตรการเรียนการสอนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กไทย เพื่อให้สามารถสื่อสารกับเด็กประเทศสมาชิกอาเซียนได้ ทั้งนี้ ไทยเน้นการเชื่อมโยงภายในอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมโยงทางถนน ทางวัฒนธรรม ทางภาษา ฯลฯ
ด้านเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ นั้น ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์น้ำท่วมในไทย และยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับไทยในการแก้ปัญหาครั้งนี้ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการฯ ได้หยิบยกประเด็นเรื่องประสบการณ์ในการพยากรณ์อากาศผ่านดาวเทียมของสหรัฐฯ ที่ทำได้อย่างแม่นยำ การเตือนภัยพิบัติ และบริหารจัดการน้ำท่วม ซึ่งไทยอยากเรียนรู้จากสหรัฐฯ ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ได้ตอบรับด้วยดี พร้อมเชื่อว่าจะยังประโยชน์กับทั้งไทยและประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--