เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๕๔ นายอาซีฟ อัลวาร์ อาหมัด เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายจุลพงษ์ โนนศรีชัย ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ ณ กระทรวงการต่างประเทศ
ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตฯ กล่าวว่า ไทยและสหราชอาณาจักรมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่น โดยเฉพาะในระดับพระราชวงศ์ ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ไปร่วมในงานพระราชพิธีอภิเษกสมรสระหว่างดยุกและดัชเชสส์แห่งเคมบริดจ์
นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตฯ กล่าวว่า สหราชอาณาจักรยินดีที่ไทยมีบทบาทนำในเวทีระหว่างประเทศ แม้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองที่ผ่านมา สหราชอาณาจักรยินดีที่ไทยกลับสู่สถานการณ์ปกติ ตลอดจนยินดีที่รัฐบาลปัจจุบันเน้นเรื่องการสร้างความปรองดองภายในประเทศ จึงขอเสนอให้เชิญผู้มีบทบาทสำคัญในเรื่องดังกล่าวของสหราชอาณาจักรมาบรรยายที่ประเทศไทย เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์ ซึ่งฝ่ายไทยได้กล่าวว่า คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (Truth Reconciliation Commission — TRC) ก็มีข้อเสนอดังกล่าวเช่นกัน โดยจะเชิญนาย Kofi Anan อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ มาบรรยาย
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้แจ้งให้เอกอัครราชทูตฯ ทราบถึงผลการเยือนสหภาพเมียนมาร์ของนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีการหารือกับ พล.อ.เต็ง เส่ง ประธานาธิบดีสหภาพเมียนมาร์ เกี่ยวกับประเด็นความร่วมมือต่าง ๆ ในการนี้ เอกอัครราชทูตฯ กล่าวแสดงความยินดีต่อผลความสำเร็จของการเยือนเมียนมาร์ครั้งนี้ พร้อมกล่าวว่า สหราชอาณาจักรถือเป็นประเทศผู้ให้ความช่วยเหลือเมียนมาร์อันดับต้น ๆ และกำลังเฝ้าติดตามพัฒนาการทางการเมืองภายในของเมียนมาร์ โดยเฉพาะในเรื่องการหารือระหว่างรัฐบาลเมียนมาร์กับนาง Aung San Suu Kyi ซึ่งรัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวเสริมว่าเมียนมาร์กำลังมีพัฒนาการที่ดี
สำหรับบทบาทของไทยในอาเซียน นั้น รัฐมนตรีว่าการฯ ได้แจ้งเอกอัครราชทูตฯ ว่า ไทยเน้นการเชื่อมโยงภายในอาเซียน ทั้งการเชื่อมโยงทางถนน วัฒนธรรม ภาษา และการศึกษา โดยไทยต้องการให้เกิดความมั่นคงและสันติภาพในภูมิภาค ในการนี้ เอกอัครราชทูตฯ กล่าวว่า สหราชอาณาจักรให้ความสำคัญกับอาเซียนเป็นอย่างมาก โดยเป็นหนึ่งในประเทศแรก ๆ ที่ได้แต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำอาเซียนที่อินโดนีเซีย ทั้งนี้ สหราชอาณาจักรเน้นเรื่องประเด็นสิทธิมนุษยชนภายในอาเซียนเป็นพิเศษ และยินดีที่อาเซียนมีการจัดตั้งคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยเรื่องสิทธิมนุษยชน (ASEAN Inter-governmental Commission on Human Rights) เพื่อดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ
รัฐมนตรีว่าการฯ ได้ใช้โอกาสนี้ขอให้เอกอัครราชทูตฯ ช่วยดูแล/อำนวยความสะดวกเรื่องการขอรับการตรวจลงตราไปสหราชอาณาจักรของนักศึกษาและพ่อครัวชาวไทย ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ ตอบรับด้วยดี พร้อมแจ้งว่า ปัจจุบัน จำนวนนักศึกษาไทยที่เดินทางไปศึกษาต่อที่สหราชอาณาจักรมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ปัจจุบัน สถานเอกอัครราชทูตฯ ร่วมกับ British Council ได้จัดเวทีอธิบายแนวทางการขอรับการตรวจลงตราให้นักศึกษาไทยที่ประสงค์เดินทางไปสหราชอาณาจักรได้รับทราบ และมีแผนงานขยายหลักสูตรการสอนภาษาอังกฤษไปทั่วประเทศไทย อย่างไรก็ดี ในส่วนของพ่อครัวชาวไทยที่ประสงค์ไปทำงาน นั้น เนื่องจากสหราชอาณาจักรมีกฎระเบียบการควบคุมการอพยพ/ย้ายถิ่นฐานของคน (migration) จึงจำกัดเฉพาะพ่อครัวไทยที่มีมาตรฐานสูงเท่านั้น
เกี่ยวกับข้อห่วงกังวลต่อสถานการณ์น้ำท่วมในไทย นั้น เอกอัครราชทูตฯ แจ้งความพร้อมของฝ่ายสหราชอาณาจักรที่จะร่วมมืออย่างเต็มที่กับไทยในการแก้ปัญหาครั้งนี้ โดยเฉพาะในเรื่องของการจัดสัมมนาให้ความรู้/ถ่ายทอดประสบการณ์ เกี่ยวกับการอพยพผู้ประสบภัยน้ำท่วม และการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยจะทำงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ของไทย ในการจัดโครงการสัมมนาต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--