เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๔ นาง Asha-Rose Migiro รองเลขาธิการสหประชาชาติได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในโอกาสที่เดินทางเยือนไทยเพื่อเป็นประธานการประชุมกลไกประสานงานของหน่วยงานสหประชาชาติในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (Regional Coordination Mechanism of the United Nations Economic Commission for Asia and the Pacific) ระหว่างวันที่ ๑๒-๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๔ สาระสำคัญของการหารือสรุปได้ ดังนี้
๑. เหตุการณ์อุทกภัยในประเทศไทย
รองเลขาธิการสหประชาชาติได้แสดงความเสียใจต่อสถานการณ์อุทกภัยในประเทศไทย และได้ชื่นชมความพยายามของรัฐบาลไทยที่จะแก้ไขปัญหาอุทกภัยครั้งนี้ พร้อมนี้ ได้แสดงเจตจำนงของสหประชาชาติที่พร้อมจะให้ความร่วมมือประเทศไทย ทั้งนี้ สหประชาชาติมีการจัดทำโครงการบริหารจัดการและการป้องกันภัยพิบัติจากธรรมชาติ ซึ่งน่าจะสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกับไทยได้
รัฐมนตรีว่าการฯ ได้กล่าวขอบคุณต่อข้อห่วงกังวลสถานการณ์อุทกภัยในประเทศไทย ทั้งนี้ ประเทศไทยไม่ได้เป็นประเทศเดียวที่ประสบปัญหาอุทกภัย หากแต่ประเทศในภูมิภาค อาทิ กัมพูชา ลาว และเวียดนามก็ประสบปัญหาเช่นกัน ซึ่งประเทศเหล่านี้เป็นแหล่งผลิตอาหารของโลก ปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นจึงส่งผลต่อความมั่นคงทางด้านอาหาร ซึ่งควรมีการศึกษาผลกระทบ และเตรียมแนวทางในการรับมือ
๒. พัฒนาการในเมียนมาร์
รัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวว่า ตามที่ตนได้มีโอกาสพบเลขาธิการสหประชาชาติในระหว่างการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ ๖๖ ที่นครนิวยอร์ก ตนได้แจ้งพัฒนาการที่ดีขึ้นของความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา และสถานการณ์ในเมียนมาร์ นอกจากนี้ ในโอกาสที่นายกรัฐมนตรีได้เยือนเมียนมาร์อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๕๔ ก็ได้มีการสานต่อความร่วมมือระหว่างสองฝ่าย และรับทราบถึงพัฒนาการของกระบวนการประชาธิปไตยและการปรองดองแห่งชาติ อีกทั้ง เมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลเมียนมาร์ได้ปล่อยตัวนักโทษ จำนวนกว่า ๖,๐๐๐ คน ถือได้ว่าเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงและมุ่งมั่นของเมียนมาร์ที่จะพัฒนาประชาธิปไตย และเพื่อเป็นการสนับสนุนพัฒนาการในเมียนมาร์ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้ขอให้สหประชาชาติประสานประเทศต่างๆ เพื่อพิจารณาผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรที่มีต่อเมียนมาร์ นอกจากนี้ ไทยยังสนับสนุนในหลักการที่เมียนมาร์จะดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนในปี ๒๕๕๗ (ค.ศ. ๒๐๑๔)
รองเลขาธิการสหประชาชาติตระหนักถึงพัฒนาการในเมียนมาร์ และเห็นว่ายังมีอีกหลายโอกาสที่จะทำงานร่วมกันเพื่อสนับสนุนการปฏิรูปทางการเมืองในเมียนมาร์
๓. ความร่วมมือในกรอบอาเซียน-สหประชาชาติ
รองเลขาธิการสหประชาชาติได้แจ้งว่าสหประชาชาติได้จัดทำรายงานความร่วมมือภายใต้อาเซียน-สหประชาชาติ และเห็นว่ารายงานดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนและสหประชาชาติให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น
ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้กล่าวยินดีที่เลขาธิการสหประชาชาติจะเข้าร่วมการประชุมผู้นำอาเซียน-สหประชาติ ครั้งที่ ๔ ซึ่งจะมีขึ้นที่เมืองบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ในเดือนพฤศจิกายน ศกนี้
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--