รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ ๒๓ ณ มลรัฐฮาวาย

ข่าวต่างประเทศ Monday November 14, 2011 13:44 —กระทรวงการต่างประเทศ

เมื่อวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ ๒๓ ณ เมืองฮอนโนลูลู มลรัฐฮาวาย การประชุมครั้งนี้ได้ให้ความสำคัญกับการบรรลุวิสัยทัศน์ของเอเปคในการส่งเสริมการรวมตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาค และการเจริญเติบโตที่มีความสมดุล ความครอบคลุมและทั่วถึง ความยั่งยืน ความริเริ่มสร้างสรรค์ และความมั่นคง ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุผลดังกล่าว ที่ประชุมได้จัดลำดับความสำคัญ ๓ ประเด็นสำหรับปี ๒๐๑๑ คือ การเสริมสร้างการรวมตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคและการขยายตัวทางการค้า ๒) การส่งเสริมการเติบโตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ ๓) การพัฒนากฎระเบียบให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันและมีความร่วมมือกัน

ในช่วงเช้า รัฐมนตรีว่าการฯ ได้เข้าร่วมการประชุมระหว่างอาหารเช้าของรัฐมนตรีเอเปค โดยมีนางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เป็นประธาน เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือและโครงสร้างสถาปัตยกรรมทางภูมิภาค ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้ย้ำต่อที่ประชุมฯ ว่า ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน เอเปคจำเป็นต้องป้องกันพลวัตรทางเศรษฐกิจและความเข้มแข็งของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก นอกจากนี้ เอเปคต้องมีความก้าวหน้าในด้านการค้าเสรีและความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างกัน เพื่อที่เอเปคจะสามารถเป็นพลังและกลไกขับเคลื่อนการเติบโตของโลก นอกจากนั้น ไทยเห็นว่า ในเรื่องโครงสร้างสถาปัตยกรรมทางภูมิภาคนั้น มีความจำเป็นต้องมีพลังร่วม (synergy) จากองค์กรและสถาบันต่าง ๆ ยิ่งไปกว่านั้น สมาชิกเอเปคต้องดำเนินการเรื่องกระบวนการสร้างกลุ่มของตนเอง ในขณะเดียวกัน ต้องดำเนินการต่อไปในเรื่องภูมิภาคนิยมแบบเปิด (open regionalism) และเตรียมการที่จะเสริมสร้างความร่วมมือในรูปแบบใหม่ (non traditional areas) เช่น ภัยพิบัติ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจได้

ต่อมา รัฐมนตรีว่าการฯ ได้เข้าร่วมการประชุมหารือด้านนโยบายระดับสูงว่าด้วยการปรับตัวและการตอบสนองต่อภัยพิบัติ (High Level Policy Dialogue on Disaster Resilience) โดยรัฐมนตรีว่าการฯ ได้แจ้งที่ประชุมฯ เกี่ยวกับสถานการณ์อุทกภัยในประเทศไทย และความร่วมมือของทุกภาคส่วนของสังคมไทย ทั้งภาครัฐ และเอกชน ที่มีเจตนารมณ์และจิตอาสาในการแก้ไขปัญหา รวมถึงภาคประชาสังคมและประชาชนในทุกสาขาอาชีพได้มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยร่วมกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพยายามของสังคมไทยทั้งมวลในการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อันเป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิมของสังคมไทย ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้ขอบคุณประชาคมระหว่างประเทศสำหรับความช่วยเหลือและการสนับสนุนแก่ไทยในการบรรเทาทุกข์

ในการประชุมหารือด้านนโยบายระดับสูงว่าด้วยการบริหารปกครองที่เปิดกว้าง และการเติบโตทางเศรษฐกิจ (High Level Policy Dialogue on Open Governance and Economic Growth) นั้น รัฐมนตรีว่าการฯ ได้เน้นย้ำความสำคัญของการบริหารปกครองที่เปิดกว้างสำหรับการมีส่วนร่วมของของประชาชนและการหารือในเรื่องที่อยู่ในความสนใจของสาธารณชน สำหรับการบริหารปกครองที่เปิดกว้างนั้น จำเป็นต้องส่งเสริมให้มีความเข้าใจในหมู่สาธารณชนในเรื่องความเชื่อมโยงระหว่างการบริหารปกครองแบบเปิดกว้างกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ สำหรับประเทศไทยนั้น แผนธรรมาภิบาลในหลายมิติได้นำมาปรับใช้เมื่อปี ๒๕๔๔ เพื่อกระตุ้นและสร้างความน่าเชื่อถือ ความโปร่งใส และความมีส่วนร่วมของสาธารณชนในกระบวนการตัดสินใจ การพิจารณาทบทวน และการปฏิบัติของนโยบายแห่งชาติ สำหรับรัฐบาลชุดปัจจุบัน นายกรัฐมนตรีได้ประกาศหลักการธรรมาภิบาล ๘ ข้อสำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐ อาทิ การมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง การเสริมสร้างความน่าเชื่อถือ ความโปร่งใส และการต่อต้านการทุจริต การมีส่วนร่วมของภาคพลเรือน การพัฒนาการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน การปฏิบัติตามมาตรฐานสูงสุดของจริยธรรมทางวิชาชีพ การทำงานอย่างบูรณาการระหว่างหน่วยงาน การนำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการทำงานของภาครัฐ การให้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารและกิจกรรมของภาครัฐ และการทำงานเชิงรุกในการเตรียมการสำหรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในการนี้ เอเปคควรเป็นเวทีในการแบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดีเพื่อส่งเสริมการบริหารปกครองที่ดี (ธรรมาภิบาล) และที่เปิดกว้าง

กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ