เมื่อวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือนายวีระ สมความคิด ซึ่งถูกจับกุมอยู่ที่เรือนจำเปรยซอ กรุงพนมเปญ ว่า เมื่อวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ นางวิไลวรรณ สมความคิด มารดาของนายวีระฯ ได้มีหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการฯ แจ้งอาการเจ็บป่วยของนายวีระฯ ว่าระหว่างการเข้าเยี่ยมนายวีระฯ ตามปกติในทุกวันศุกร์พบว่าในช่วง ๓ สัปดาห์ที่ผ่านมานายวีระฯ มีอาการอ่อนเพลียและปวดตามข้อ จึงขอให้กระทรวงการต่างประเทศประสานงานเพื่อนำแพทย์ไปตรวจรักษา หรือนำนายวีระฯ ออกมาตรวจรักษาที่สถานพยาบาล ซึ่งหลังจากรัฐมนตรีว่าการฯ ได้รับหนังสือดังกล่าวแล้ว ได้ประสานสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ให้ประสานกับกระทรวงมหาดไทยของกัมพูชาแล้ว และเมื่อช่วงเย็นของวันนี้ (๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๔) เพิ่งได้รับแจ้งว่ากระทรวงมหาดไทยของกัมพูชาอนุญาตให้กระทรวงฯ นำแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากไทยเดินทางไปตรวจรักษานายวีระฯ ได้ โดยก่อนหน้านี้กระทรวงฯ ได้ประสานกับนายแพทย์สุนทร อันตรเสน ประธานคณะอนุกรรมการด้านสาธารณสุข สมาคมมิตรภาพไทย — กัมพูชา และที่ปรึกษาโรงพยาบาลราชวิถี เพื่อประสานงานและแนะนำแพทย์ผู้เชี่ยวชาญซึ่งจะเดินทางไปตรวจรักษานายวีระฯ ในโอกาสแรกแล้ว
สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับคำขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่นายวีระฯ และนางสาวราตรี พิพัฒนาไพบูลย์ นั้น รัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวว่า หลังจากการเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้ขอให้นายกรัฐมนตรีกัมพูชาพิจารณาเรื่องคำขอพระราชทานอภัยโทษให้กับคนไทยทั้ง ๒ คน รัฐมนตรีว่าการฯ ได้มีโอกาสพบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาระหว่างการเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน แต่ยังไม่มีโอกาสได้หารือเกี่ยวกับเรื่องนี้ในรายละเอียดมากนัก เนื่องจากทั้งสองประเทศยังประสบปัญหาอุทกภัยอยู่ อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีว่าการฯ จะได้พบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาอีกในเร็ววันนี้และจะได้สอบถามความคืบหน้าเกี่ยวกับคำขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ของคนไทยทั้ง ๒ คน
รัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวต่อไปเกี่ยวกับการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ด้วยว่า ในวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศจะได้จัดประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือเกี่ยวกับท่าทีทั้ง ๕ ข้อของไทย (การปรับกำลัง การส่งคณะผู้สังเกตการณ์ร่วม การกำหนดจุดตรวจร่วม การจัดระเบียบวัดแก้วสิกขาคีรีสะวารา การจัดการชุมชนโดยรอบ และการเดินทางเข้า — ออกพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ยูเนสโก) ซึ่งที่ประชุมรัฐสภาได้ให้ความเห็นตามมาตรา ๑๗๙ แล้ว โดยหลังจากประชุมหารือแล้วจะได้ประสานกับฝ่ายกัมพูชาเพื่อกำหนดวันจัดประชุม GBC ร่วมกันต่อไปโดยเร็ว เพื่อจะได้แจ้งศาลยุติธรรมระหว่างประเทศให้ทราบเกี่ยวกับความคืบหน้าในการดำเนินการตามมาตรการชั่วคราวของทั้งสองประเทศต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--