เมื่อวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๔ นายสุนัย จุลพงศธร ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร และคณะได้เดินทางมากระทรวงการต่างประเทศ เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปการดำเนินงานของกระทรวงฯ โดยมีนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายจุลพงษ์ โนนศรีชัย ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยข้าราชการระดับสูงให้การต้อนรับ
ภายหลังการบรรยายสรุป รัฐมนตรีว่าการฯ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า รัฐมนตรีว่าการฯ และคณะข้าราชการได้แจ้งแก่คณะกรรมาธิการฯ ให้ทราบถึงการดำเนินงานของกระทรวงการต่างประเทศในเรื่องต่าง ๆ อาทิ ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน การเตรียมความพร้อมของไทยสู่การเป็นประชาคมอาเซียน การทูตเพื่อประชาชน การให้ความช่วยเหลือคนไทยที่ตกทุกข์ได้ยากในต่างประเทศ ความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจกับประเทศต่าง ๆ รวมทั้ง เรื่องความช่วยเหลือจากต่างประเทศต่อกรณีเหตุการณ์อุทกภัยในไทย ซึ่งแม้ว่ารัฐบาลไม่มีนโยบายที่จะร้องขอความช่วยเหลือจากต่างประเทศ แต่หากประเทศใดประสงค์จะให้ความช่วยเหลือ รัฐบาลไทยก็ยินดีที่จะรับไมตรีและความร่วมมือจากประเทศเหล่านั้น นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ และคณะข้าราชการยังได้แจ้งให้คณะกรรมาธิการฯ ทราบถึงงานบริหารของกระทรวงฯ อาทิ งบประมาณ และทรัพยากรบุคคลซึ่งมีจำนวนจำกัดเมื่อเทียบกับปริมาณงานในปัจจุบัน
ต่อข้อซักถามของสื่อมวลชนที่ว่า คณะกรรมาธิการฯ ได้เดินทางมาเพื่อหารือเรื่องการยื่นฟ้องศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เกี่ยวกับกรณีการเสียชีวิต จำนวน ๙๑ ศพ ระหว่างความไม่สงบทางการเมือง เมื่อปี ๒๕๕๓ หรือไม่ นั้น รัฐมนตรีว่าการฯ ได้ชี้แจงว่า คณะกรรมาธิการฯ ไม่ได้หยิบยกกรณีการเสียชีวิต แต่ได้มีการยื่นหนังสือเพื่อให้กระทรวงการต่างประเทศประสานการเข้าเยี่ยมคารวะและพบปะกับคณะผู้แทนศาลอาญาระหว่างประเทศ เพื่อหารือถึงแนวทางการดำเนินงาน ประเด็นปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อการเข้าเป็นภาคีของไทยในอนุสัญญากรุงโรม แม้ไทยได้ลงนาม เมื่อ ปี ๒๕๔๓ ซึ่งนับเป็นประเทศแรก ๆ ที่ได้ลงนาม อย่างไรก็ดี ไทยยังไม่ได้ให้สัตยาบันการเป็นภาคีดังกล่าว
นอกจากนี้ สื่อมวลชนยังได้สอบถามถึงการดำเนินการของกระทรวงฯ ต่อกรณีการเสียชีวิตของช่างภาพชาวต่างประเทศในช่วงความไม่สงบทางการเมือง เมื่อปี ๒๕๕๓ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการฯ ได้ชี้แจงว่า การเสียชีวิตของช่างภาพชาวต่างประเทศทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวอิตาลีเป็นเรื่องที่ถูกหยิบยกในการหารือกับผู้แทนรัฐบาลระดับสูงของ ทั้งสองฝ่ายเกือบทุกครั้ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยอยู่ระหว่างการดำเนินการ กระทรวงการต่างประเทศได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการด้วยความโปร่งใส และยุติธรรม เพื่อให้คดีได้คลี่คลายโดยเร็ว อีกทั้งเห็นว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะมีความเกี่ยวเนื่องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--