เมื่อวันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๔ นายสี จิ้นผิง รองประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีนและคณะ ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาลไทย ได้เข้าพบและหารือกับนายกรัฐมนตรี ณ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างไทยกับจีน และประเด็นระหว่างประเทศที่อยู่ในความสนใจร่วมกันของทั้งสองฝ่าย โดยมีประเด็นสำคัญสรุปได้ ดังนี้
๑. ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องถึงสายสัมพันธ์อันใกล้ชิด และความร่วมมือที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องมากว่า ๓๖ ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน ในการนี้ ได้เห็นพ้องที่จะยกระดับความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ให้เข้มข้นขึ้น และสนับสนุนการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูง ทั้งฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายนิติบัญญัติ ในโอกาสนี้ ฝ่ายจีนแจ้งว่า พร้อมที่จะต้อนรับนายกรัฐมนตรีในการเยือนจีนในโอกาสที่ทั้งสองฝ่ายสะดวกต่อไป
๒. ประเด็นการพัฒนาที่ยั่งยืนนั้น ฝ่ายไทยได้เสนอความร่วมมือกับจีนใน ๔ สาขา ซึ่งสอดคล้องกับแนวนโยบายการพัฒนาประเทศและพัฒนาคุณภาพประชาชนของไทย คือ ๑) การพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ และการพัฒนาระบบรางต่างๆ เพื่อเชื่อมโยงจีน - ลาว - ไทย และประเทศอาเซียนอื่นๆ ๒) การพัฒนาระบบบริหารจัดการน้ำอย่างครบวงจรเพื่อป้องกันอุทกภัย ภัยแล้ง และเพิ่มประสิทธิภาพการชลประทานแก่ประเทศไทยในอนาคต ๓) การวิจัยพัฒนาพลังงานสะอาด พลังงานหมุนเวียน พลังงานทดแทน โดยเฉพาะการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนประจำตำบล ซึ่งจะสร้างรายได้ และพัฒนาสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนในชนบทของไทยต่อไป ๔) การพัฒนาด้านการศึกษาและพัฒนาทรัพยากรบุคคล โดยเฉพาะในชนบท เช่น การส่งเสริมการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ อาทิ คอมพิวเตอร์แท็บเล็ต ซึ่งฝ่ายจีนยินดีให้การสนับสนุนโครงการความร่วมมือด้านนี้ โดยให้หน่วยงานทั้งสองฝ่ายหารือในรายละเอียดต่อไป นอกจากนี้ รองประธานาธิบดีจีนฯ ได้นำคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตมาบริจาคให้แก่นักเรียนในโรงเรียนที่ประสบน้ำท่วมด้วย
๓. สำหรับประเด็นการขยายผลการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว โดยการพัฒนาและอำนวยความสะดวกระบบโลจิสติกส์ในการผ่านแดน โดยเฉพาะเส้นทาง R3A ที่เชื่อมจีน ลาว และไทย นั้น ฝ่ายไทยได้เสนอเป้าหมายความร่วมมือ ๕ ปีข้างหน้า โดยเป้าหมายการค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ ๒๐ ต่อปี ในขณะที่ฝ่ายจีนเสนอเป้าหมายการค้า ๑๐๐,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี ๒๕๕๙ (ซึ่งคิดเป็นมูลค่าการค้าใกล้เคียงกัน) ขณะที่การลงทุนเพิ่มร้อยละ ๑๕ และการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นร้อยละ ๒๐ ต่อปี ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบในการให้มีการประชุมคณะกรรมการร่วม ว่าด้วยความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และเศรษฐกิจไทย - จีน ครั้งที่ ๓ โดยเร็ว โดยจีนจะเป็นเจ้าภาพ
๔. นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นความสำคัญของการส่งเสริมการศึกษาและวัฒนธรรมระหว่างกัน โดยจีนเสนอให้มีการแลกเปลี่ยนเยาวชนระหว่างกันจำนวน ๑๐๐ คนในปีหน้า และยินดีสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมไทยที่จีน และขอให้ไทยสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมจีนในไทยต่อไป
๕. ทั้งสองฝ่ายเห็นความสำคัญของความร่วมมือในกรอบอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Greater Mekong Subregion - GMS) และกรอบอาเซียน รวมทั้งกรอบการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก (East Asia Summit - EAS)
๖. ฝ่ายจีนขอบคุณที่ไทยให้ความร่วมมือในการลาดตระเวนแม่น้ำโขงระหว่างจีน ลาว เมียนมาร์ และไทย เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง และเพื่อป้องกันปัญหาการค้ายาเสพติด การลักลอบการค้ามนุษย์ และอาชญากรรมข้ามชาติอื่นๆ ซึ่งฝ่ายไทยย้ำจะให้ความร่วมมือเรื่องนี้กับจีนต่อไปเพื่อความปลอดภัยของการเดินเรือในแม่น้ำโขงอันเป็นผลประโยชน์ของทุกฝ่าย
๗. ฝ่ายจีนยินดีที่หมีแพนด้า ๓ ตัวจากจีนเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ไปเยือน จ. เชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนายกรัฐมนตรีด้วย ซึ่งฝ่ายไทยขอบคุณอีกครั้งในไมตรีจิตรของจีนในเรื่องนี้
๘. ในระหว่างการเยือนไทยครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี และรองประธานาธิบดีจีน ได้ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามความตกลง และบันทึกความเข้าใจร่วมระหว่างกัน รวมจำนวน ๖ ฉบับ ดังนี้
- หนังสือรับมอบความช่วยเหลืออุทกภัยจากจีน
- บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนาอย่างยั่งยืนไทย — จีนในประเทศไทย
- สนธิสัญญาว่าด้วยการโอนตัวผู้ต้องโทษตามคำพิพากษา
- แผนปฏิบัติการว่าด้วยความร่วมมือด้านวัฒนธรรม ระหว่างปี ๒๕๕๔ - ๒๕๕๖
- บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางด้านทะเล
- ความตกลงว่าด้วยการแลกเปลี่ยนเงินตราแบบทวิภาคีระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารกลางจีน
๙. นอกจากนี้ ฝ่ายจีนเสนอให้เงินกู้แก่รัฐบาลไทยจำนวน ๔๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อดำเนินการตามโครงการพัฒนาประเทศด้วย
๑๐. ทั้งนี้ ฝ่ายไทยได้แสดงความขอบคุณในความปรารถนาดี กำลังใจ และน้ำใจที่ฝ่ายจีนได้มอบให้แก่รัฐบาลไทยและประชาชนชาวไทยตลอดมาเมื่อไทยประสบกับวิกฤตน้ำท่วม โดยนายสี จิ้นผิง รองประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นผู้แทนรัฐบาลจีนระดับสูงสุด ที่เดินทางเยือนไทยหลังการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของไทย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--