เมื่อวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๔ ภายหลังสิ้นสุดการเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
๑. ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะเปิดด่านที่บ้านหนองเอี่ยม จังหวัดสระแก้ว — สตึงบท จังหวัดบันเตียเมียนเจย เพื่อส่งเสริมการค้าและการขนส่งระหว่างกัน โดยปัจจุบัน ปริมาณการค้าระหว่างสองประเทศได้เพิ่มขึ้น
๒. ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี (Joint Commission — JC) ระหว่างวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ — ๑ มีนาคม ๒๕๕๕ ที่จังหวัดเชียงใหม่ ตลอดจนเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมาธิการชายแดนร่วม (Joint Border Commission — JBC) ในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ด้วย
๓. ฝ่ายไทยและกัมพูชาจะเดินหน้านำร่องโครงการ ACMECS Single Visa ในปี ๒๕๕๕ อันจะนำไปสู่การขยายวงให้ประเทศสมาชิกอาเซียนได้เข้ามามีส่วนร่วมในอนาคต เพราะปัจจุบัน ปริมาณการท่องเที่ยวระหว่างไทย-กัมพูชา ได้เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน ๒-๓ เท่า นับตั้งแต่รัฐบาลปัจจุบันเข้ามาบริหารประเทศ
๔. ฝ่ายไทยจะพิจารณาสนับสนุนการสร้างหอพักและลานกีฬาเพิ่มเติม ภายในศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานกัมพูชา-ไทย ตามคำร้องขอของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งศูนย์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากการสนับสนุนของรัฐบาลไทย เพื่อพัฒนาฝีมือแรงงานในสาขาวิชาชีพช่าง และวิชาชีพบริการต่าง ๆ
๕. สำหรับความร่วมมือด้านพลังงาน ทั้งสองฝ่ายจะเร่งเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลโดยเร็ว ทั้งนี้ เพื่อผลประโยชน์ด้านพลังงานที่ทั้งสองประเทศจะสามารถนำมาพัฒนาร่วมกัน โดยประเด็นเรื่องเขตแดนนั้น จะใช้ระยะเวลานานในการดำเนินการ และการดำเนินการต่าง ๆ จะอยู่ภายใต้กรอบคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค ซึ่งต้องมีการประมวลข้อคิดเห็นจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรีและรัฐสภาพิจารณาตามลำดับต่อไป ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ เน้นย้ำว่า การดำเนินการต่าง ๆ จะอยู่บนพื้นฐานของความโปร่งใส่ เท่าเทียม และยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ รวมถึงให้ประชาชนได้รับทราบการดำเนินการด้วย นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกับการสร้างเขื่อนไฟฟ้าสตึงนัม และความร่วมมือด้านก๊าซธรรมชาติ โดยไทยจะเปิดการฝึกอบรมให้แก่ผู้เชี่ยวชาญของกัมพูชา ในเรื่องโรงแยกก๊าซและปิโตรเคมี เพื่อทั้งสองประเทศจะได้พัฒนาร่วมกันต่อไป
๖. ฝ่ายไทยและกัมพูชาจะร่วมมือด้านกีฬาให้มากขึ้น โดยในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๕ กระทรวงพลังงานจะส่งเรือไปร่วมแข่งขันในเทศกาลแข่งเรือของฝ่ายกัมพูชา
๗. สำหรับกรณีของนายวีระ สมความคิด และนางสาวราตรี พิพัฒนาไพบูลย์ นั้น รัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวว่า ได้นำเรื่องดังกล่าวหารือกับนายฮอร์ นัมฮง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และความร่วมมือระหว่างประเทศของกัมพูชาแล้ว ซึ่งฝ่ายกัมพูชาแจ้งว่า ตามกฎหมายกัมพูชา ผู้ต้องหาต้องได้รับโทษ ๒ ใน ๓ ถึงจะขอพระราชทานอภัยโทษได้ อย่างไรก็ดี ฝ่ายกัมพูชาได้เสนอให้มีการแลกเปลี่ยนนักโทษเป็นกลุ่มระหว่างกัน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการฯ จะได้นำไปปรึกษาหน่วยงานของไทยที่เกี่ยวข้อง ในขณะเดียวกัน ได้มอบหมายให้เอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ประสานกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาในรายละเอียดต่อไปด้วยอีกทางหนึ่ง
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--