เมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับการบรรยายสรุปเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณสุขุมวิท ซอย ๗๑ เมื่อวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ให้แก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศประจำประเทศไทย โดยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และ พล.ต.อ. ปานศิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่กระทรวงการต่างประเทศ เมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เวลา ๑๕.๓๐ น. โดยมีเอกอัครราชทูตและผู้แทนระดับสูงจาก ๔๕ ประเทศ และ ๒ องค์การระหว่างประเทศเข้าร่วม สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. การบรรยายสรุปดังกล่าวมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อที่จะให้คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศ
ได้รับทราบข้อมูลและข้อเท็จจริงจากแหล่งทางการ เพื่อที่แต่ละแห่งจะได้รายงานข้อมูลไปยังเมืองหลวงและกระทรวงการต่างประเทศของตนอย่างเป็นทางการต่อไป ทั้งนี้ การบรรยายสรุปดังกล่าวยังเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของกระทรวงการต่างประเทศในการให้ข้อมูลอย่างทันท่วงทีแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศ และเป็นโอกาสในการให้ความเชื่อมั่นและย้ำถึงการดำเนินการที่เกี่ยวข้องของรัฐบาลไทยเพื่อดูแลความปลอดภัยของชาวต่างชาติในประเทศไทย
๒. ปลัดกระทรวงการต่างประเทศและรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แจ้งให้คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศทราบถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นตามข้อมูลและพยานหลักฐานต่าง ๆ ที่รวบรวมได้จนถึงปัจจุบัน ซึ่งได้มีการจับกุมชาย ๒ คน ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบสัญชาติและความถูกต้องของหนังสือเดินทาง ส่วนผู้ต้องสงสัยอีก ๒ คน กำลังอยู่ระหว่างการติดตามตัวของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
๓. ปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้ขอความร่วมมือประเทศต่าง ๆ ในการสนับสนุนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการสอบสวนของไทย พร้อมทั้งระบุว่าฝ่ายไทยตระหนักถึงความรับผิดชอบของแต่ละประเทศในการให้ข้อมูลแก่คนชาติของตน อย่างไรก็ดี ขอความร่วมมือประเทศต่าง ๆ ในการออกประกาศคำแนะนำการเดินทาง โดยคำนึงถึงการดำเนินการที่เกี่ยวข้องของรัฐบาลไทยในเรื่องนี้ ทั้งในระยะที่ผ่านมา ปัจจุบัน และต่อไป รวมถึงให้สอดคล้องและสมดุลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
๔. ผู้แทนของสถานเอกอัครราชทูตบางแห่งได้สอบถามถึงความเกี่ยวโยงของเหตุการณ์ในครั้งนี้ กับกรณีที่บางประเทศได้ออกประกาศคำแนะนำการเดินทางในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา รวมทั้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอินเดียและจอร์เจีย ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้มีการชี้แจงคณะทูตและองค์การระหว่างประเทศว่า จากข้อมูลและพยานหลักฐานที่ทางการไทยมีอยู่ในขณะนี้ ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่ามีความเกี่ยวโยงกัน จำเป็นต้องรอผลการสอบสวนของฝ่ายตำรวจต่อไป
๕. ต่อข้อซักถามของผู้สื่อข่าวที่ว่า สถานเอกอัครราชทูตแต่ละแห่งมีความกังวลต่อสถานการณ์หรือไม่นั้น โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า ไม่มีประเทศใดแสดงความกังวล ซึ่งน่าจะสะท้อนถึงความมั่นใจที่มีอยู่ต่อการดำเนินการของฝ่ายไทย ทั้งนี้ ทางการไทยได้ยกระดับการรักษาความปลอดภัยเพื่อความไม่ประมาท ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา
๖. โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเสริมด้วยว่า ก่อนการบรรยายสรุปฯ เอกอัครราชทูตอิหร่านประจำประเทศไทยได้พบหารือกับรักษาการอธิบดีกรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา ซึ่งรักษาการอธิบดีกรมเอเชียใต้ฯ ได้แจ้งข้อมูลต่าง ๆ ให้เอกอัครราชทูตอิหร่านฯ ทราบ และได้ขอความร่วมมือในการพิสูจน์สัญชาติและความถูกต้องของหนังสือเดินทางของบุคคลที่ถูกจับกุม ๒ คน ด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--