เมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับกรณีคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ออกคำแถลงต่อสื่อเกี่ยวกับการโจมตีนักการทูตอิสราเอล สรุปได้ ดังนี้
๑. เช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ ประเทศไทยประณามการก่อการร้ายทุกรูปแบบและทุกวิธี ไม่ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใดและที่ไหน ในการนี้ ประเทศไทยได้ดำเนินการอย่างแข็งขันในการต่อต้านการก่อการร้ายในเวทีต่าง ๆ รวมถึงกรอบสหประชาชาติและอาเซียน
๒. กระทรวงการต่างประเทศได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านประจำประเทศไทยว่า หลังจากการตรวจสอบสัญชาติผู้ต้องสงสัย ๒ รายซึ่งถูกจับกุมที่ประเทศไทยโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของอิหร่าน สามารถยืนยันได้ว่าบุคคลทั้งสองถือสัญชาติอิหร่าน อย่างไรก็ตาม สถานเอกอัครราชทูตอิหร่านฯ ได้ย้ำว่า ผู้ต้องสงสัยดังกล่าวมิได้เกี่ยวข้องกับรัฐบาลอิหร่านหรือองค์กรใด ๆ ของอิหร่าน โดยผู้ต้องสงสัยทั้งสองก่อเหตุด้วยตนเอง ในการนี้ สถานเอกอัครราชทูตอิหร่านฯ ได้ขอเข้าพบผู้ต้องสงสัยทั้งสองเพื่อให้การดูแลทางด้านการกงสุล ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศกำลังประสานงานในเรื่องดังกล่าว
๓. จากการสืบสวนของตำรวจไทยเกี่ยวกับเหตุระเบิดที่สุขุมวิท ซอย ๗๑ เมื่อวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ในชั้นนี้ ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีความเกี่ยวโยงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอินเดียและจอร์เจียเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยการสืบสวนยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งหากพบหลักฐานเพิ่มเติมประการใด ก็จะมีการแถลงเพิ่มเติมบนพื้นฐานของข้อเท็จจริงที่รวบรวมได้
๔. เกี่ยวกับการขอตัวผู้ร้ายข้ามแดนผู้ต้องสงสัยคดีนี้ซึ่งถูกควบคุมตัวที่ประเทศมาเลเซียนั้น ทางการไทยได้ส่งคำร้องขอตัวผู้ร้ายข้ามแดน อย่างเป็นทางการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของมาเลเซีย โดยช่องทางทางการทูตผ่านสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์แล้ว เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕
๕. ดังนั้น ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรมั่นใจได้ว่า การสืบสวนเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยจะเป็นไปอย่างมืออาชีพและละเอียดรอบคอบตามขั้นตอนของกฎหมาย นอกจากนี้ หวังว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะเคารพอธิปไตยของไทยและไม่ดำเนินการใด ๆ ในผืนแผ่นดินไทย ในอันที่จะกระทบความมั่นคงของไทย หรือใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการดำเนินกิจกรรมที่เป็นภัยต่อประเทศอื่น ๆ รวมถึงประชาชนและผลประโยชน์ของประเทศอื่น ๆ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--