นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ประกอบด้วยบุคคลสำคัญ อาทิ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ น.อ. อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ม.ร.ว. พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม มีกำหนดการเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ ๖ - ๙ มีนาคม ๒๕๕๕ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่แนบแน่นในทุกระดับระหว่างไทยและญี่ปุ่น รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นต่อแนวทางการแก้ปัญหาอุทกภัย ภายหลังวิกฤตอุทกภัยที่ผ่านมา
การเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์สำคัญ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทยและญี่ปุ่นในทุกมิติ และในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้รับพระราชทานพระวโรกาสให้เข้าเฝ้าฯ มกุฎราชกุมาร นารุฮิโตะ และหารือข้อราชการกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น โดยนายกรัฐมนตรีจะใช้โอกาสพิเศษครบรอบ ๑๒๕ ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - ญี่ปุ่น ส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างไทยกับญี่ปุ่น ให้ปรากฏผลเป็นรูปธรรมในทุกด้าน ทั้งการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคม ทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี พร้อมทั้งส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาความเชื่อมโยงในอาเซียนและอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการร่วมกันพัฒนาและฟื้นฟูเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ ซึ่งต่างประสบภัยพิบัติอย่างรุนแรงในปี ๒๕๕๔ สร้างความเชื่อมั่นและขยายผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ทั้งด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีจะใช้โอกาสนี้ สร้างความเชื่อมั่นต่อภาครัฐและเอกชนญี่ปุ่นว่า รัฐบาลไทยมีแผนการดำเนินงานชัดเจนเกี่ยวกับการป้องกันอุทกภัย และเชิญชวนให้ญี่ปุ่นเข้าร่วมในโครงการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานของไทย
โดยนายกรัฐมนตรีมีกำหนดการกล่าวสุนทรพจน์ในงานสัมมนาส่งเสริมการลงทุนในประเทศไทย ซึ่งมี นักธุรกิจญี่ปุ่นจำนวนมากแสดงความสนใจเข้าร่วมการสัมมนาครั้งนี้ รวมทั้งจะพบหารือกับภาคเอกชนญี่ปุ่น คณะบริษัทผู้ประกอบการท่องเที่ยวรายใหญ่ของญี่ปุ่น และผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเอกชนชั้นนำของญี่ปุ่นที่มีแผนจะขยายการลงทุนในไทยเป็นรายบุคคล นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีจะนำคณะนักธุรกิจไทยที่เดินทางร่วมไปกับคณะด้วย พบหารือกับกลุ่มองค์กรภาคเอกชนที่สำคัญของญี่ปุ่น อาทิ สมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น หอการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น (JCCI) บรรษัทการเงินญี่ปุ่น (JFC) และผู้แทนบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่นที่มีการลงทุนในไทย เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือกับญี่ปุ่นในการพัฒนาขีดความสามารถด้านการแข่งขันของไทยในฐานะฐานการผลิตและฐานกระจายสินค้าของญี่ปุ่น
นอกจากนี้ การเยือนของนายกรัฐมนตรีมีขึ้นในช่วงครบรอบ ๑ ปี นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวและ สึนามิบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น เมื่อวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๕๔ นายกรัฐมนตรีจะมีกำหนดการเดินทางไปเยี่ยมพื้นที่ประสบภัยจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เมืองเซ็นได จ.มิยากิ เพื่อให้กำลังใจกับผู้ประสบภัย รวมทั้งพบปะกับแรงงานไทยจากโรงงานญี่ปุ่นซึ่งประสบอุทกภัยในไทย ที่ไปทำงานในโรงงานญี่ปุ่นเป็นการชั่วคราว
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--