คำกล่าวเปิดของนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือไทย — ลาว ครั้งที่ ๑๗ ระดับรัฐมนตรี วันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๕ นครหลวงเวียงจันทน์

ข่าวต่างประเทศ Thursday March 22, 2012 10:49 —กระทรวงการต่างประเทศ

ฯพณฯ ทองลุน สีสุลิด รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

ประธานคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือ ไทย-ลาว ฝ่ายลาว

ท่านกรรมาธิการฝ่ายลาวและฝ่ายไทย และ

ท่านผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่าน

ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เดินทางพร้อมคณะผู้แทนฝ่ายไทยมานครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวอีกครั้ง เพื่อเป็นประธานร่วมในการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือไทย-ลาว ครั้งที่ ๑๗ การเดินทางมา สปป.ลาว ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ ๒ นับตั้งแต่เข้าร่วมคณะเยือนอย่างเป็นทางการของ ฯพณฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๔ ผมขอขอบคุณในการต้อนรับอย่างอบอุ่นและเต็มเปี่ยมไปด้วยไมตรีจิตดุจ “ญาติใกล้ชิด มิตรใกล้บ้าน” ในทั้งสองโอกาส ซึ่งผมหวังอย่างยิ่งว่าจะได้ตอบแทนน้ำใจของทุกท่านในระยะเวลาอันใกล้นี้

ฯพณฯ ประธานร่วมฝ่ายลาว

สายสัมพันธ์ระหว่างไทยกับลาวมีมายาวนาน ดังนั้น “ความฮักแพง” ของประชาชนของทั้งสองชาติไม่เพียงถูกหลอมรวมด้วยประวัติศาสตร์และกาลเวลาเท่านั้น แต่ยังมีความเกี่ยวพันกันทางสายเลือดจนเรียกได้ว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน พึ่งพาอาศัยกัน รัฐบาลไทยถือเสมอว่า “ความมั่นคงและความมั่งคั่งของลาว คือความมั่นคงและความมั่งคั่งของไทย” และได้ดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของทั้งสองประเทศบนพื้นฐานของความเคารพซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ ในเวลาอีกเพียงสามปี ครอบครัวนี้จะขยายใหญ่ขึ้นเมื่อยุคสมัยของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนมาถึง ดังนั้น ทั้งไทยและลาวควร “จับมือกันให้มั่น จับมือกันให้อุ่น” เพื่อเป็นตัวอย่างและแรงบันดาลใจให้ชาติอื่น ๆ ในอาเซียนต่อไป

ฯพณฯ ประธานร่วมฝ่ายลาว

นับตั้งแต่การประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือไทย-ลาวครั้งที่แล้วเมื่อเดือนตุลาคม ๒๕๕๓ที่กรุงเทพฯ ความร่วมมือและความสัมพันธ์ไทย-ลาวในภาพรวมได้พัฒนาดีขึ้นจากเดิมที่ดีอยู่แล้วอย่างต่อเนื่อง

ผมมีความยินดีที่สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ ๓ (นครพนม-คำม่วน) ซึ่งเปิดใช้เมื่อ ๑๑/๑๑/๑๑ (๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔) เป็นทั้งสะพานคอนกรีตที่เชื่อมโยงเครือข่ายคมนาคมระหว่างสองประเทศและเปิดโอกาสทางธุรกิจในภูมิภาค และเป็นทั้งสะพานใจซึ่งเชื่อมโยงมิตรภาพระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศเข้าด้วยกัน

ในด้านความร่วมมือทางการเมือง ไทยและลาวมีความก้าวหน้าเป็นอย่างยิ่ง โดยในการประชุมครั้งนี้ ผมยินดีที่ทั้งสองฝ่ายได้หารือเพื่อร่วมหาทางสนับสนุนการยกระดับจุดผ่านแดนต่าง ๆ โดยเฉพาะจุดผ่อนปรนบ้านฮวก จังหวัดพะเยา ซึ่งตรงกับด่านท้องถิ่นบ้านปางมอน เมืองคอบ แขวงไซยะบุลี และจุดผ่านแดนภูดู่ จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งตรงกับด่านท้องถิ่นบ้านผาแก้ว เมืองปากลาย แขวงไซยะบุลี เพื่อสนับสนุนการสัญจรข้ามพรมแดนและการค้าระหว่างสองประเทศ นอกจากนั้น ทั้งสองฝ่ายยังจะได้เริ่มศึกษารูปแบบและแนวทางที่เหมาะสมในการส่งเสริมความร่วมมือทางแพ่งให้เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการค้าและลงทุนระหว่างประเทศไทยและ สปป.ลาว

ในด้านเศรษฐกิจ ผมรู้สึกยินดีที่ทั้งสองฝ่ายจะได้หารือในการสนับสนุนความเชื่อมโยงเพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการก่อสร้างเส้นทางต่าง ๆ โดยเฉพาะความคืบหน้าของสะพานมิตรภาพแห่งที่ ๔ (เชียงของ-ห้วยทราย) ซึ่งเชื่อมทั้งสองประเทศเข้าสู่ประเทศจีนและอินเดีย แนวความคิดในการสร้างสะพานมิตรภาพแห่งที่ ๕ (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) และการก่อสร้างเส้นทางเชื่อมต่อจากภูดู่ อุตรดิตถ์เข้าสู่เมืองปากลาย แขวงไซยะบุลี จะช่วยเปิดเส้นทางเชื่อมโยงในภาคเหนือของทั้งสองประเทศเข้าด้วยกัน และได้ร่วมหาแนวทางขจัดอุปสรรคในการขนส่งข้ามพรมแดน การค้าและการลงทุนข้ามแดนระหว่างกันให้มีผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

ในด้านสังคมและความร่วมมือ ผมมีความยินดีที่ทั้งสองประเทศมีกิจกรรมความร่วมมือในทุกมิติและทุกระดับอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในด้านวัฒนธรรมและประเพณีซึ่งเราทั้งสองมีต้นทุนร่วมกัน เพื่อที่จะร่วมก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและสง่างาม นอกจากนั้น ผมถือว่า ความร่วมมือในด้านการศึกษาทั้งในด้านวิชาการและก่อสร้างสถานที่ศึกษามีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากมีผลโดยตรงต่อเยาวชนคนรุ่นใหม่ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาภูมิภาคของเราให้เจริญยิ่งขึ้นสืบไป

ฯพณฯ ประธานร่วม

สำหรับการประชุมระดับเจ้าหน้าที่และเจ้าหน้าที่อาวุโสเมื่อวาน ผมได้รับรายงานด้วยความยินดีว่า การประชุมดำเนินไปอย่างราบรื่นและสร้างสรรค์ โดยเจ้าหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายได้หารือกันอย่างตรงไปตรงมา และพยายามแสวงหาจุดร่วมในการจัดทำบันทึกการประชุมเพื่อสะท้อนผลสำเร็จและแนวทางเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างไทยกับ สปป.ลาว ให้แนบแน่นและสนองตอบต่อผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย ตลอดจนผลประโยชน์ร่วมกันในอนุภูมิภาคต่อไป

ในโอกาสนี้ ผมร่วมกับ ฯพณฯ ประธานร่วมฝ่ายลาว ขอเปิดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือไทย-ลาว ครั้งที่ ๑๗ ณ บัดนี้

กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ