เมื่อ ๒๓ มีนาคม ๒๕๕๕ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้หารือข้อราชการกับนาย John Baird รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแคนาดา ในโอกาสที่นาย Baird ติดตามนาย Stephen Harper นายกรัฐมนตรีแคนาดา เยือนไทยอย่างเป็นทางการ โดยสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นระหว่างกันในมิติต่าง ๆ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ตลอดจนเน้นย้ำถึงความสำคัญของการกระชับความสัมพันธ์ภาคประชาชนระหว่างกัน ซึ่งภายหลังการหารือ นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับผลการหารือข้างต้น สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแคนาดาได้แสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเยือนไทย พร้อมย้ำถึงความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนระหว่างกัน โดยในระยะเวลาที่ผ่านมา ทั้งไทยและแคนาดาได้ร่วมมือกันในหลากหลายมิติ ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม โดยเฉพาะความสัมพันธ์ในภาคประชาชน นั้น สองฝ่ายได้มีการลงนามในปฏิญญาแสดงเจตจำนงในการจัดทำตราสารว่าด้วยการแลกเปลี่ยนเยาวชนเมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๕๕ ซึ่งเมื่อบรรลุแล้ว เยาวชนของสองประเทศจะได้มีโอกาสเข้าไปศึกษา ท่องเที่ยว ทำงานเป็นการชั่วคราวในอีกประเทศหนึ่ง ตลอดจนเปิดโอกาสให้สัมผัสและเรียนรู้ความงดงามของวัฒนธรรม ของกันและกัน
๒. สำหรับความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว นั้น ปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวแคนาดาเดินทางมาไทยปีละประมาณ ๑๙๐,๐๐๐ คน ในขณะที่นักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปท่องเที่ยวที่แคนาดาปีละประมาณ ๑๙,๐๐๐ คน ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้ขอให้แคนาดาช่วยอำนวยความสะดวกด้านการตรวจลงตราให้กับคนไทยที่จะ เดินทางไปแคนาดา เพื่อให้การไปมาหาสู่ระหว่างกันมากขึ้น
๓. สำหรับความร่วมมือด้านการศึกษา นั้น ปัจจุบัน มีนักศึกษาไทยไปศึกษาต่อที่แคนาดาประมาณ ๑,๑๐๐ คน ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับการที่แคนาดามีสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงชั้นนำของโลกหลายแห่ง ตลอดจนเป็นสังคมพหุวัฒนธรรมที่พร้อมรับนักศึกษาต่างชาติ รวมถึงนักศึกษาไทยไปศึกษาต่อ ในการนี้ ทั้งสองฝ่ายจึงเห็นควรให้มีการแลกเปลี่ยนนักศึกษาระหว่างกัน การให้ทุนการศึกษา ตลอดจนการส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญอยู่แล้วและ กระทรวงการต่างประเทศกำหนดจัดค่ายเยาวชน (MFA Camp: Beyond English) ปลายเดือนเมษายน-ต้นเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๕ เพื่อส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษให้แก่เยาวชนไทย ซึ่งแคนาดาได้แสดงความสนใจให้เยาวชนแคนาดาเข้าร่วมฯ เพื่อช่วยสอนภาษาอังกฤษให้กับเยาวชนไทยด้วย
๔. สำหรับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ นั้น บริษัท ปตท.สผ. ได้แสดงความสนใจขยายการลงทุนด้านพลังงานในแคนาดา ซึ่งฝ่ายแคนาดารับที่จะอำนวยความสะดวกและพิจารณาในเรื่องดังกล่าว
๕. สำหรับความร่วมมือในเวทีระหว่างประเทศ นั้น สองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นระหว่างกันในประเด็นระดับภูมิภาคและระดับโลก โดยเฉพาะพัฒนาการในเมียนมาร์ ซึ่งสองฝ่ายได้แสดงความยินดีที่เมียนมาร์มีพัฒนาการในเชิงบวก และได้เชิญผู้สังเกตการณ์และสื่อมวลชนของไทย แคนาดา ตลอดจนนานาชาติไปสังเกตการเลือกตั้งซ่อมในเมียนมาร์ในวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๕ นี้ โดยเชื่อว่าจะได้มีการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรเมียนมาร์ต่อไป ทั้งนี้ ไทยและแคนาดาพร้อมร่วมมือกับเมียนมาร์แบบสามฝ่าย โดยไทยมีศักยภาพและพร้อมให้ความร่วมมือกับเมียนมาร์ในสาขาการสาธารณสุข การศึกษา การเกษตร และการพัฒนาชนบท ในขณะที่แคนาดาพร้อมแบ่งปันประสบการณ์ด้านประชาธิปไตยให้กับเมียนมาร์
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--