ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมเพื่อความร่วมมือทวิภาคีไทย-คาซัคสถาน ครั้งที่ ๒

ในวันที่ ๒๒ มิถุนายน ๑๕๕๕ นายสุรพงษ์ โตวิจักขณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนางกุลชาลา อับดีคาลิโควา (Mrs. Gulshara Abdykalikova) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานคาซัคสถาน จะเป็นประธานร่วมในการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมเพื่อความร่วมมือทวิภาคี (Joint Commission for Bilateral Cooperation - JC) ไทย-คาซัคสถาน ครั้งที่ ๒ ณ กระทรวงการต่างประเทศ โดยจะมีผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งของไทยและคาซัคสถานเข้าร่วมฯ ซึ่งการประชุมดังกล่าวนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะกำหนดเป้าหมายในการขยายความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ระหว่างไทยกับคาซัคสถานในอนาคต

การประชุม JC ครั้งนี้ จะเป็นโอกาสสำคัญของไทยในการเป็นเจ้าภาพ เนื่องจากไทยมีกำหนดจะเปิดสถานเอกอัครราชทูตในกรุงอัสตานาในเดือนกรกฎาคมศกนี้ นอกจากนี้ ปี ๒๕๕๕ ยังเป็นปีครบรอบ ๒๐ ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ซึ่งประเทศทั้งสองจะจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมระหว่างกัน โดยคาซัคสถานจะจัดวงออร์เคสตร้ามาแสดงในประเทศไทยประมาณปลายปี ๒๕๕๕ นอกจากความร่วมมือด้านวัฒนธรรมแล้ว ความร่วมมือด้านอื่น ๆ ได้แก่ ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งคาซัคสถานมีความเชี่ยวชาญเทคโนโลยีอวกาศและด้านอื่น ๆ มาตั้งแต่สมัยสหภาพโซเวียต ด้านการเกษตร การท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งคาซัคสถานมีความชำนาญกีฬามวยสากล มวยปล้ำ และชาวคาซัคสถานสนใจมวยไทย ด้านการค้าและการลงทุน โดยไทยพร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การพัฒนาธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) กับคาซัคสถาน รวมทั้งทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะผลักดันการลงนามความตกลงที่คั่งค้าง โดยเฉพาะความตกลงทางการค้าและความตกลงส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนเพื่อจะเป็นกรอบการค้าและการลงทุนอันจะเป็นประโยชน์ต่อนักธุรกิจและการลงทุนระหว่างสองประเทศต่อไป นอกจากนี้ คาซัคสถานยังสนใจร่วมมือในด้านการก่อสร้างและการเคหะ ตลอดจนด้านการพัฒนาข้าราชการพลเรือนกับไทยอีกด้วย ดังนั้น การประชุม JC ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสของไทยในการส่งเสริมและขยายผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของไทยในคาซัคสถานและกลุ่มประเทศเอเชียกลางโดยรวม ตลอดจนขยายผลไปยังความร่วมมือด้านอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อไทยในอนาคตด้วยต่อไป

อนึ่ง คาซัคสถานเป็นประเทศในเอเชียกลางที่มีขนาดใหญ่กว่าประเทศไทย ๕ เท่าและมีประชากร ๑๖.๕ ล้านคน คาซัคสถานมีทรัพยากรน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ มีน้ำมันสำรองร้อยละ ๒.๕ ของโลก คาดว่าในปี ๒๕๕๘ คาซัคสถานจะเป็น ๑ ใน ๑๐ ของประเทศที่ส่งออกน้ำมันมากที่สุดในโลก นอกจากนี้ ยังมีแหล่งแร่ธาตุมากมาย ทั้งทองคำ ทองแดง โครเมียม และยูเรเนียม มีความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อาทิ เทคโนโลยีทางอวกาศที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย ทั้งนี้ ในปี ๒๕๕๔ มีนักท่องเที่ยวคาซัคสถานมาไทย จำนวน ๓๐,๐๐๐ คน สายการบิน Air Astana มีเที่ยวบินตรงมายังประเทศไทย ซึ่งจะเพิ่มเที่ยวบินจาก ๕ เที่ยวบินต่อสัปดาห์เป็น ๗ เที่ยวบินต่อสัปดาห์ นอกจากนี้ คาซัคสถานยังเป็นตลาดการค้าที่ใหญ่ที่สุดของไทยในกลุ่มประเทศเอเชียกลาง กล่าวคือ ปีละ ๙๑ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทยส่งออก ๖๖.๕ ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการค้าที่ผ่านมา มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นร้อยละ ๒๐ ต่อปี

กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--