เมื่อวันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๕๕ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้พบหารือทวิภาคีกับประเทศต่าง ๆ ในระหว่างการเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ ๔๕ ที่กรุงพนมเปญ สาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
๑. การหารือทวิภาคีกับนายวันนะ หม่อง ลวิน รัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมาร์
ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงการเตรียมการการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายเต็ง เส่ง ประธานาธิบดีเมียนมาร์ ระหว่างวันที่ ๒๒ — ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๕ โดยเห็นพ้องกันว่าควรผลักดันความตกลงต่าง ๆ ที่ยังคั่งค้างเพื่อให้สามารถลงนามในระหว่างการเยือนดังกล่าว
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายหวังว่าจะสามารถจัดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ไทย-เมียนมาร์ ครั้งที่ ๗ ในโอกาสแรก หลังจากที่ประธานร่วมของ JBC ทั้งสองฝ่ายได้พบปะกันอย่างไม่เป็นทางการเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้ผลักดันให้มีเปิดจุดผ่านแดนถาวรเพิ่มเติม ๔ แห่ง ได้แก่ (๑) มอต่อง ภาคตะนาวศรี - ด่านสิงขร จ.ประจวบคีรีขันธ์ (๒) พญาตองซู รัฐกะเหรี่ยง - ด่านพระเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี (๓) โป่งปาจิ่น รัฐฉาน - ด่านกิ่วผาวอก จ.เชียงใหม่ (๔) แม่แซะ รัฐคะยา - ด่านบ้านห้วยต้นนุ่น จ.แม่ฮ่องสอน และกำลังพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะเปิดจุดผ่อนปรนที่ด่านตะโกบน จ.ราชบุรี โดยการเปิดจุดผ่านแดนถาวรเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมการค้าและยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่
สำหรับกรณีที่ชาวบ้านไทยเกือบ ๕๐ คน ถูกจับกุมในข้อหาบุกรุกเข้าไปทำกินในเมียนมาร์โดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น รัฐมนตรีว่าการได้ขอให้ทางการเมียนมาร์ช่วยเข้าไปดูแลในกรณีนี้ ซึ่งฝ่ายเมียนมาร์รับที่จะช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว
๒. การหารือนายอัลเบิร์ต เอฟ เดล โรซาริโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์
ทั้งสองฝ่ายได้แสดงความพอใจกับภาพรวมความสัมพันธ์และยินดีที่ฟิลิปปินส์จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย-ฟิลิปปินส์ (Joint Commission on Bilateral Cooperation - JCBC) ครั้งที่ ๕ ที่กรุงมะนิลา ระหว่างวันที่ ๒๑ — ๒๒ มกราคม ๒๕๕๖ โดยจะเป็นโอกาสในลงนามร่างบันทึกความตกลงว่าด้วยการแลกเปลี่ยนครูระหว่างกระทรวงศึกษาธิการไทยกับกระทรวงศึกษาธิการฟิลิปปินส์ และบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการปราบปรามยาเสพติดและการควบคุมสารตั้งต้นสำหรับผลิตยาเสพติดไทย — ฟิลิปปินส์
นอกจากนี้ ฝ่ายฟิลิปปินส์ได้แจ้งท่าทีให้ทราบในเรื่องทะเลจีนใต้ พร้อมทั้งได้กล่าวขอบคุณไทย สำหรับจุดยืนที่สร้างสรรค์ในเรื่องดังกล่าว
๓. การหารือทวิภาคีกับนายเปฮิน ดาโต๊ะ ลิม จ๊อก เซ็ง (Pehin Dato Lim Jock Seng) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและการค้าบรูไน คนที่สอง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและการค้าบรูไนคนที่สองได้กล่าวขอบคุณฝ่ายไทยสำหรับการต้อนรับการเสด็จฯ เยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของสมเด็จพระราชาธิบดี แห่งบรูไนอย่างสมพระเกียรติเมื่อวันที่ ๒๙ มิถุนายน — ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๕
รัฐมนตรีว่าการฯ ได้เชิญชวนให้นักลงทุนบรูไนเพิ่มการลงทุนในไทย ซึ่งที่ผ่านมา มีการลงทุนร่วมระหว่าง Brunei Investment Agency (BIA) กับกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.) จัดตั้งกองทุนร่วมลงทุน ในชื่อ “กองทุนไทยทวีทุน ๑” และเชิญชวนให้ใช้ไทยเป็นฐานผลิตเพื่อส่งออกอาหารฮาลาลไปยังประเทศที่สาม
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้เร่งรัดให้มีการลงนามอนุสัญญาการเว้นการเก็บภาษีซ้อนไทย-บรูไน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองประเทศ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--