การหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีกับภาคเอกชนไทยระหว่างการเยือนสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี

วันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ระหว่างการเยือนสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ระหว่างวันที่ ๑๗ — ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๕๕ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้ประชุมหารือกับคณะนักธุรกิจไทยที่ร่วมเดินทางมาในการเยือนครั้งนี้ โดยมีนักธุรกิจ ๗๓ ราย จาก ๕ สาขา ได้แก่ ๑) เกษตรและอาหาร ๒) ชิ้นส่วนยานยนต์ ๓) พลังงาน / Green Economy - Technology ๔) การแพทย์ ๕) สินค้าดีไซน์ (เสื้อผ้า สิ่งทอ อัญมณีและเครื่องประดับ ของชำร่วยและเครื่องแต่งกาย) กระทรวงการต่างประเทศได้เป็นหน่วยงานหลักประสานการนำคณะนักธุรกิจไทยเข้าร่วมการเยือน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เข้าร่วมหารือดังกล่าวด้วย

ในการหารือดังกล่าว นายกรัฐมนตรีแจ้งว่า การเยือนครั้งนี้มุ่งสร้างความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยและดำเนินการเชิงรุกเพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุน รวมทั้งความร่วมมือระหว่างกันในสาขาสำคัญที่เยอรมนีมีองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เช่น พลังงานทดแทน การบริหารจัดการน้ำ ยานยนต์ มาตรฐานและความปลอดภัยของสินค้าอาหาร การศึกษาโดยเฉพาะด้านอาชีวศึกษา โครงสร้างพื้นฐานรวมทั้งรถไฟ และโลจิสติกส์ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการแปลงวิกฤตให้เป็นโอกาสในสถานการณ์ที่ยุโรปกำลังประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจซึ่งรวมถึงสินค้าบางชนิด เช่น อัญมนี ซึ่งมีแนวโน้มที่จะส่งออกได้มากขึ้น

นายกรัฐมนตรีได้เน้นการทำงานอย่างมีบูรณาการระหว่างภาครัฐและเอกชนในด้านเศรษฐกิจ โดยได้ขอความร่วมมือภาคเอกชนในการเสนอยุทธศาสตร์รองรับการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเฃียนซึ่งจะมีการเปิดเสรีทางการค้าในสาขาต่าง ๆ เพื่อประกอบการกำหนดแนวทางการดำเนินการของรัฐบาลในสนับสนุนการเตรียมตัวรับกับการเปิดเสรีดังกล่าว ทั้งนี้ ภายหลังการหารือ ภาคเอกชนได้รับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับวิกฤตเศรษฐกิจในเขตยูโร และแนวทางในการพัฒนานวัตกรรมของเยอรมนีโดยผู้เชี่ยวชาญจากสภาหอและอุตสาหกรรมเยอรมัน

ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ภาคเอกชนได้มีโอกาสศึกษาดูงานนอกสถานที่โดยแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม ได้แก่ ๑) เยี่ยมชมหมู่บ้านพึ่งพาตนเองด้านพลังงาน Feldheim ซึ่งผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม พลังงานจากก๊าซชีวภาพ (Biogas energy) และพลังงานจากแสงอาทิตย์ และ ๒) ศูนย์ส่งเสริมศักยภาพแห่งภูมิภาคบรันเดนบูร์ก ซึ่งเป็นศูนย์ให้การอบรมด้านอาชีวศึกษา โดยเฉพาะสาขาด้านเทคโนโลยีเครื่องจักรกลและเครื่องอัตโนมัติ และเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ

ก่อนเข้าร่วมกิจกรรมการเจรจาสร้างเครือข่ายทางธุรกิจแยกรายสาขา (Business Networking / Matching) ที่สภาหอการค้าและอุตสาหกรรมเยอรมัน และงานเลี้ยงรับรองเฉลิมฉลองวาระครบรอบ ๑๕๐ ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย — เยอรมนีซึ่งมีภาคเอกชนเยอรมันเข้าร่วมประมาณ ๒๐๐ ราย

กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--