เมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๕๕ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วมการประชุมกลุ่มรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับเลขาธิการสหประชาชาติ ในระหว่างเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ (United Nations General Assembly — UNGA) สมัยที่ ๖๗ ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา สาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
๑. ที่ประชุมสนับสนุนการเสริมสร้างความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างอาเซียนกับสหประชาชาติ และสนับสนุนการดำเนินการตาม Joint Declaration on Comprehensive Partnership between ASEAN and the UN ซึ่งผู้นำอาเซียน-UN ได้ให้การรับรองในการประชุมสุดยอดอาเซียน- UN ครั้งที่ ๔ เมื่อเดือน พฤศจิกายน ๒๕๕๔
๒. กัมพูชาได้กล่าวถึงพัฒนาการและความสำเร็จของอาเซียนในช่วงปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการจัดทำปฏิญญาอาเซียนว่าดวยสิทธิมนุษยชน ASEAN Declaration on a Drug-Free ASEAN 2015 การรับรอง Concept Paper เรื่อง Global Movement of Moderates การดำเนินการเพื่อพัฒนา Code of Conduct เพื่อแก้ไขปัญหาข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ และการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับ UN ที่เป็นหุ้นส่วนระหว่างกันยิ่งขึ้น
๓. เลขาธิการสหประชาชาติ ให้ความสำคัญกับการประสานงานระหว่างสำนักเลขาธิการของทั้งสองฝ่ายเป็นปัจจัยสำคัญ ในการผลักดันผ่านดำเนินการตาม Joint Declaration ทั้งนี้ เลขาธิการสหประชาชาติและเลขาธิการอาเซียน ได้เสนอรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตาม Joint Declaration ในโอกาสนี้ด้วย
นอกจากนี้ เลขาธิการสหประชาชาติได้กล่าวสนับสนุน (๑) การทำงานของ ASEAN Intergovernmental Commission on Human Rights (AICHR) ในการจัดทำปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน และสนับสนุนการดำเนินงานของ ASEAN Commission for the Promotion and Protection of the Rights of Women and Children (ACWC) (๒) การรักษาสันติภาพ (๓) การส่งเสริมความเชื่อมโยงในอาเซียน (๔) การบริหารจัดการภัยพิบัติ โดยเฉพาะสนับสนุนการดำเนินงานของ AHA Center (๕) Post 2015 Development Agenda
ในการนี้ เลขาธิการสหประชาชาติได้กล่าวชื่นชมอาเซียนในพัฒนาการในการสร้างประชาคมอาเซียน และสนับสนุนให้อาเซียนแสดงบทบาทเพิ่มเติมในการผลักดันและแก้ไขปัญหานอกภูมิภาค (go beyond ASEAN) เนื่องจากเป็นองค์การระดับภูมิภาคที่มีความแข็งแกร่งองค์กรเดียวในเอเชีย โดยเฉพาะ MDG การพัฒนาที่ยั่งยืน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะการผลักดันและปฏิบัติตามกลไกและความตกลงที่เกี่ยวข้อง
๔. ประธานสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ นาย Vuk Jeremic กล่าวชื่นชมต่อความก้าวหน้าและความสำเร็จของอาเซียน และเห็นว่าอาเซียนกับGeneral Assembly ควรดำเนินงานร่วมกันใน ๒ ประเด็น ได้แก่ การ share best practices อาเซียนเป็นองค์กรตัวอย่างในการผลักดันยุทธศาสตร์การพัฒนาระดับประเทศ (national development strategies) ผ่านการรวมตัวในภูมิภาค (regional integration) และการดำเนินการเพื่อให้ global economic governance มีความ inclusive และโปร่งใสมากยิ่งขึ้น
๕. รัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวถึงความสำคัญของ connectivity ในการลดช่องว่างในการพัฒนา และแสดงความชื่นชมต่อ UNESCAP ในการให้ความช่วยเหลือเรื่องการเชื่อมโยงด้านการขนส่ง อาเซียนและ UN ควรดำเนินงานร่วมกันเพื่อระดมทุนในการลด missing links ในโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งพัฒนาเรื่อง ICT เพื่อจัดการขั้นตอนการข้ามพรมแดน นอกจากนี้ อาเซียนและ UN ควรดำเนินงานร่วมกันในการจัดการความท้าทายที่เกิดขึ้นจากการเชื่อมโยงกัน เช่น อาชญากรรมข้ามชาติ เป็นต้น
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้กล่าวถึงการส่งเสริมความร่วมมือระหว่าง AHA Center กับองค์กรภายใต้ UN เช่น UN OCHA ในการพัฒนาศักยภาพการให้ความช่วยเหลือที่รวดเร็วและเป็นระบบยิ่งขึ้น รวมถึง การแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในการจัดการเรื่องภัยพิบัติในอดีด และการใช้กลไกที่มีอยู่แล้วให้มีประโยชน์ที่สุด นอกจากนี้ ได้แจ้งต่อที่ประชุม ว่าไทยจะเป็นเจ้าภาพร่วมกับสาธารณรัฐเกาหลีในการจัดการฝึกเรื่องการจัดการภัยพิบัติ ARF DiREx ในปี ๒๐๑๓
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--