เมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๕ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนระหว่างการเดินทางเยือนอียิปต์อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ ๒๐ — ๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๕ โดยมีประเด็นสำคัญสรุปได้ ดังนี้
๑. การเดินทางเยือนอียิปต์อย่างเป็นทางการครั้งนี้ เป็นไปตามคำเชิญของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอียิปต์ ซึ่งการเยือนล่าสุดของรัฐมนตรีต่างประเทศไทยเกิดขึ้นเมื่อประมาณ ๖ ปีมาแล้ว การเยือนครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากอียิปต์เป็นประเทศที่มีบทบาทนำและมีความสำคัญทั้งด้านการเมืองและเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ รวมถึงอียิปต์ก็ให้ความสำคัญกับภูมิภาคในเอเชียมากขึ้น ในขณะที่ประเทศไทยก็ต้องการเพิ่มพูนความสำคัญกับอียิปต์และภูมิภาคแอฟริกาเหนือมากขึ้น
๒. เป้าหมายหลักของการเยือนอียิปต์ครั้งนี้ ประกอบด้วย ด้านการเมือง คือ การกระชับความ สัมพันธ์กับรัฐบาลใหม่ของอียิปต์ ด้านเศรษฐกิจ คือ การส่งเสริมและขยายความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน การศึกษา และการสาธารณสุข ด้านศาสนา คือ การเชิญผู้นำสูงสุดด้านศาสนาของอียิปต์เยือนไทย และด้านการให้ความช่วยเหลือและดูแลนักศึกษาไทยในอียิปต์
๓. ทั้งนี้ โดยมีกำหนดการสำคัญ เช่น การหารือข้อราชการกับนายมูฮัมหมัด กาเมล อัมร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอียิปต์ การหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวางแผนและความร่วมมือระหว่างประเทศอียิปต์ การเข้าเยี่ยมคารวะผู้นำสูงสุดทางศาสนาอิสลามของอียิปต์ การเข้าร่วมพิธีลงนามในความตกลงความร่วมมือทางวิชาการและการพัฒนาไทย-อียิปต์ การเป็นประธานในพิธีมอบปริญญาบัตรให้แก่นักศึกษาไทยที่สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอัล อัซฮัร และการพบปะทีมประเทศไทยและนักศึกษาไทย
๔. ในภาพรวมด้านเศรษฐกิจนั้น สำหรับปี ๒๕๕๔ อียิปต์เป็นตลาดการค้าที่สำคัญอันดับ ๒ ของไทยในแอฟริกา โดยทั้งสองฝ่ายมีมูลค่าการค้ารวมประมาณ ๘๐๕ ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยส่วนใหญ่เป็นสินค้าอาหารทะเลกระป๋อง รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบรถยนต์ ยางพารา และเครื่องใช้ในบ้าน ซึ่งไทยเห็นว่า ยังมีลู่ทางในการส่งเสริมการค้าระหว่างกันเพิ่มมากขึ้น เพราะนอกจากอียิปต์จะเป็นตลาดที่สำคัญของไทยในตะวันออกกลางแล้วยังเป็นประตูการค้าสู่ประเทศในทวีปแอฟริกาและเมดิเตอร์เรเนียนของสินค้าไทยด้วย
๕. ปัจจุบัน ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์กันในระดับที่ดี โดยเฉพาะในระดับประชาชน เพราะอียิปต์ถือเป็นศูนย์กลางการศึกษาศาสนาอิสลามที่เป็นที่นิยมของนักศึกษาไทยมุสลิมจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยขณะนี้ มีนักศึกษามุสลิมของไทยประมาณ ๒,๐๐๐ คน ที่เข้ารับการศึกษาที่มหาวิทยาลัยอัล อัซฮัร
๖. ประเด็นสำคัญที่จะหารือกับฝ่ายต่าง ๆ ของอียิปต์ เช่น การเชิญบุคคลสำคัญ โดยเฉพาะผู้นำทางศาสนาสูงสุดเยือนไทย การให้ประเทศทั้งสองเป็นศูนย์กลางในการกระจายสินค้าสู่ภูมิภาคแอฟริกาเหนือและอาเซียน การส่งเสริมความร่วมมือด้านการศึกษา การสาธารณสุข และอื่นๆ การชี้แจงทำความเข้าใจเรื่องประเด็นปัญหา ๓ จังหวัดชายแดนใต้ และความร่วมมือด้านการศึกษา โดยเฉพาะนักศึกษาไทยในอียิปต์ เป็นต้น
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--