เมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๕ ระหว่างการเยือนอียิปต์อย่างเป็นทางการ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนระหว่างการเยือนอียิปต์อย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ ๒๐ - ๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๕ โดยมีประเด็นสำคัญสรุปได้ ดังนี้
๑. การเยือนอียิปต์ครั้งนี้ มีความสำคัญมาก เนื่องจากเป็นการเยือนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นครั้งแรกในรอบ ๖ ปี ทั้งนี้ ไทยและอียิปต์ได้ผ่านช่วงการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองมาเช่นเดียวกัน รัฐบาลของทั้งสองฝ่ายก็เป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ดังนั้น การเยือนครั้งนี้ จึงเป็นการกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
๒. ในระหว่างการพบหารือทวิภาคีกับนายโมฮัมเหม็ด กาเมล อัมร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอียิปต์ นั้น นายอัมร์ได้กล่าวว่าประเทศไทยเป็นประเทศแรกของอาเซียนที่เยือนอียิปต์อย่างเป็นทางการภายหลังการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและการมีรัฐบาลใหม่ของอียิปต์ ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้กล่าวถึงการครบรอบ ๖๐ ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - อียิปต์ในปี ๒๕๕๗ และได้เชิญนายอัมร์เยือนไทยและเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือไทย - อียิปต์ ครั้งที่ ๓ ที่ประเทศไทยในปี ๒๕๕๖ ด้วย ซึ่งนายอัมร์ได้ตอบรับด้วยความยินดี
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเรื่องการค้าและการลงทุน โดยรัฐมนตรีว่าการฯ เสนอให้ไทยและอียิปต์เป็นศูนย์กลางด้านการค้าและการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนและแอฟริกาเหนือ ซึ่งฝ่ายอียิปต์เห็นพ้องด้วย และทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะเชิญชวนนักลงทุนไทยเข้ามาลงทุนในอียิปต์ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว การโรงแรม และอุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร เป็นต้น รวมถึงได้มีการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเรื่องความร่วมมือด้านการทหารและการสาธารณสุข ซึ่งอียิปต์มีความเชี่ยวชาญด้านยา
เกี่ยวกับเรื่อง ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น รัฐมนตรีว่าการฯ ได้ชี้แจงให้ฝ่ายอียิปต์ทราบเกี่ยวกับการดูแลพี่น้องชาวไทยมุสลิมใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ปรัชญา “เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา” ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว และได้แจ้งให้ฝ่ายอียิปต์ทราบว่า ในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลไทยได้เชิญผู้แทนพิเศษของเลขาธิการองค์การความร่วมมืออิสลาม (Organization of Islamic Cooperation - OIC) เยือนไทย และไปเยี่ยมชมและพบปะหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งผู้แทนพิเศษฯ ก็มีความพึงพอใจ เกี่ยวกับเรื่องนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวแสดงความหวังว่า OIC จะมีข้อมติที่สะท้อนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้ขอรับการสนับสนุนจากฝ่ายอียิปต์ในเวที OIC ซึ่งฝ่ายอียิปต์ก็ตอบรับด้วยดี
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้ขอให้ฝ่ายอียิปต์เร่งพิจารณาร่างความตกลงและบันทึกความเข้าใจที่ยังคั่งค้าง เช่น ความตกลงด้านสาธารณสุข และวัฒนธรรม เป็นต้น
๓. ในวันเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการฯ ได้เข้าร่วมพิธีลงนามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านวิชาการและการพัฒนาระหว่างไทยกับอียิปต์ หรือ Agreement on Technical and Development Cooperation between the Government of Arab Republic of Egypt and the Government of the Kingdom of Thailand โดยลงนามร่วมกับนาย Ashraf El-Sayed El Araby รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวางแผนและความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานให้การสนับสนุนระหว่างกัน
๔. ในวันเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการฯ ได้เดินทางไปพบปะนักศึกษาไทยมุสลิมและเยี่ยมชมหอพักสตรีนานาชาติในมหาวิทยาลัยอัล อัซฮัร โดยรัฐมนตรีว่าการฯ ได้กล่าวกับนักศึกษาไทยมุสลิมว่า กระทรวงการต่างประเทศสนับสนุนนักศึกษาไทยมุสลิมที่มาศึกษาในอียิปต์ โดยหวังที่จะให้นำความรู้ความสามารถไปช่วยเหลือครอบครัวและพัฒนาประเทศต่อไป ทั้งนี้ กระทรวงฯ ได้ให้การสนับสนุนเงินจำนวน ๑ ล้านบาททุกปี เพื่อสนับสนุนกิจกรรมของนักศึกษาไทยมุสลิมในมหาวิทยาลัยอัล อัซฮัร นอกจากนี้ โดยที่ปัจจุบัน มีนักศึกษาไทยมุสลิมประมาณ ๒,๐๐๐ คนที่มาศึกษาที่อียิปต์ โดยจำนวนมากเป็นสตรี ซึ่งกระทรวงฯ ได้ผลักดันให้มีการสร้างหอพักสำหรับนักศึกษาสตรีไทยมุสลิม เพื่อเป็นการดูแลสวัสดิภาพและความปลอดภัยของนักศึกษาไทย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--