เมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้พบหารือกับนาย William Hague รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักร ซึ่งเดินทางเยือนไทยเป็นครั้งแรกในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศระหว่างวันที่ ๖-๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ในโอกาสดังกล่าว นายมนัสวี ศรีโสดาพล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับผลการหารือข้างต้น สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวขอบคุณฝ่ายสหราชอาณาจักรสำหรับการเตรียมการต้อนรับการเยือนสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีในช่วงสัปดาห์หน้า ตลอดจนแสดงความชื่นชมสหราชอาณาจักรที่ประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพจัด Olympics และ Paralympics Games ที่ผ่านมา
๒. สำหรับความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย-สหราชอาณาจักร นั้น สองฝ่ายยินดีที่จะมีการจัดตั้งกลไกหารือเชิงยุทธศาสตร์ (Thai — UK Strategic Dialogue) เป็นครั้งแรก ซึ่งกำหนดจัดขึ้นที่ประเทศไทย โดยกลไกดังกล่าวจะได้รับความเห็นชอบอย่างเป็นทางการจากนายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายช่วงการเยือนสหราชอาณาจักรของนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ สองฝ่ายเห็นควรให้มีการจัดการประชุมกลไกดังกล่าวขึ้นเป็นประจำทุกปี
๓. ในโอกาสดังกล่าว รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงให้ฝ่ายสหราชอาณาจักรทราบถึงสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจไทย ซึ่งฝ่ายสหราชอาณาจักรได้กล่าวชื่นชมไทยว่าอยู่ในทิศทางที่ถูกต้อง เป็นประชาธิปไตย มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง และประสงค์กระชับความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุนกับไทยให้มากขึ้น ทั้งนี้ สหราชอาณาจักรถือเป็นประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปที่ลงทุนในไทยเป็นอันดับหนึ่งเมื่อปี ๒๕๕๔ และรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหวังว่าปริมาณการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับสหราชอาณาจักรจะได้เพิ่มพูนหลังการเยือนสหราชอาณาจักรของนายกรัฐมนตรี โดยไทยถือเป็นประตูของสหราชอาณาจักรสู่อาเซียนในอนาคต
๔. ด้านการท่องเที่ยว นั้น มีนักท่องเที่ยวสหราชอาณาจักรเดินทางมาเยือนไทยปีละประมาณ ๑ ล้านคน โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ชาวอังกฤษนิยมมาท่องเที่ยว และสำนักงานกงสุลของสถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทยถือเป็นสำนักงานที่ใหญ่เป็นอันดับ ๒ ในบรรดาสำนักงานกงสุลของสหราชอาณาจักรทั่วโลก ในการนี้ ไทยมีความมุ่งมั่นที่จะให้ความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยได้จัดตั้งคณะกรรมาธิการรับข้อร้องเรียนและศูนย์รับข้อร้องเรียนตลอด ๒๔ ชั่วโมงที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
๕. สำหรับความร่วมมือระหว่างสหราชอาณาจักรกับอาเซียน นั้น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวแสดงความยินดีที่สหราชอาณาจักรมีปฏิสัมพันธ์กับเอเชียและอาเซียนมากขึ้น โดยได้เข้าเป็นภาคีสนธิสัญญาไมตรีและความมั่นคงแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Amity and Cooperation — TAC) และขอให้สหราชอาณาจักรสนับสนุนให้อาเซียนเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค ตลอดจนมองไทยเป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างไทยกับสหราชอาณาจักร ในการนี้ ไทยขอให้สหราชอาณาจักรสนับสนุนไทยในการเสริมสร้างศักยภาพของไทยด้านการเคลื่อนย้ายแรงงาน การพัฒนาชายแดน การค้ามนุษย์ ตลอดจนประเด็นปัญหาอันเนื่องมาจากการเชื่อมโยงต่าง ๆ
๖. นอกจากนี้ สองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาคต่าง ๆ โดยในส่วนของเมียนมาร์ นั้น ไทยชื่นชมที่นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรได้เชิญประธานาธิบดีเมียนมาร์เยือนสหราชอาณาจักร ในการนี้ ฝ่ายสหราชอาณาจักรได้กล่าวชื่นชมพัฒนาการในเมียนมาร์ โดยนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักรเป็นผู้นำประเทศและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนแรกของสหภาพยุโรปที่เดินทางเยือนเมียนมาร์ และไทยได้ขอให้สหราชอาณาจักรช่วยโน้มน้าวให้สภาพยุโรปยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรเมียนมาร์ทั้งหมดด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--