ตามที่สำนักข่าวต่างประเทศบางแห่งได้รายงานข่าวกรณีการปะทะระหว่างชุดลาดตระเวนของไทยกับกลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้ติดอาวุธชาวกัมพูชา เมื่อวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ที่บริเวณชายแดน จังหวัดตราด ซึ่งรายงานข่าวดังกล่าวมีบางประเด็นที่เป็นข้อมูลฝ่ายเดียวและคลาดเคลื่อน นั้น
กระทรวงการต่างประเทศ ขอชี้แจงข้อเท็จจริงต่อความคลาดเคลื่อนของรายงานข่าว ดังนี้
๑. การลักลอบตัดไม้ถือเป็นปัญหาที่สำคัญ ซึ่งรัฐบาลไทยมีความห่วงกังวลและได้ดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อป้องกัน พร้อมรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าว นอกจากนี้ โดยคำนึงว่าปัญหาการลักลอบตัดไม้ถือเป็นปัญหาในระดับภูมิภาคและในระดับโลก ประเทศไทยได้แสดงบทบาทอย่างแข็งขันในการร่วมแก้ไขปัญหาทั้งในระดับทวิภาคี ระดับภูมิภาค และระดับโลก
๒. การลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายและการลักลอบตัดไม้ถือเป็นความผิดทางอาญาตามกฎหมายไทย โดยผู้กระทำความผิดจะถูกจับกุมดำเนินคดี ตามกฎหมาย
๓. ในแต่ละปี มีกรณีการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายของชาวบ้านเป็นจำนวนมากที่ไม่ปรากฏเป็นข่าว โดยส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์เพื่อลักลอบตัดไม้ แต่โดยคำนึงถึงการรักษาความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ดำเนินนโยบายแบบผ่อนปรนต่อชาวบ้านที่ไม่ได้ตั้งใจกระทำผิดหรือกระทำผิดเป็นครั้งแรก โดยการตักเตือนและปล่อยตัวในภายหลัง
๔. อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้ส่วนใหญ่จะดำเนินการแบบเป็นขบวนการและมีการติดอาวุธ โดยมักเป็นฝ่ายเริ่มยิงใส่ชุดลาดตระเวนของไทยก่อนเพื่อขัดขืนการจับกุม เป็นเหตุให้ชุดลาดตระเวนของไทยไม่มีทางเลือกและต้องยิงตอบโต้เพื่อเป็นการป้องกันตัวเอง ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยจะยึดถือและปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการ (Standard Operating Procedures — SOPs) สำหรับสถานการณ์ในลักษณะนี้อย่างเคร่งครัด โดยจะเลือกใช้อาวุธเป็นขั้นตอนสุดท้ายและในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น
๕. ตามที่รายงานข่าวข้างต้นระบุว่าในช่วง ๖ เดือนแรกของปี ๒๕๕๕ มีผู้ลักลอบตัดไม้ชาวกัมพูชาเสียชีวิตจำนวนทั้งสิ้น ๓๘ คน นั้น สถิติดังกล่าวเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน และเกินกว่าความเป็นจริงมาก ทั้งนี้ ตามสถิติของศูนย์ประสานงานชายแดนไทย — กัมพูชา ระหว่างเดือนมกราคม - มิถุนายน ๒๕๕๕ ณ วันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๕ จำนวนชาวกัมพูชาที่ลักลอบเข้ามาตัดไม้และเสียชีวิตจากการปะทะกับชุดลาดตระเวนของไทย มีจำนวนทั้งสิ้น ๑๓ คน มิใช่ ๓๘ คน
๖. สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ นั้น ศูนย์ประสานงานชายแดนไทย — กัมพูชา ได้รายงานว่า เมื่อเวลา ๑๕.๓๐ น. ของวันดังกล่าว กองร้อยทหารพรานนาวิกโยธิน ๕๑๕ ได้ปะทะกับผู้ลักลอบตัดไม้พะยูงชาวกัมพูชาพร้อมอาวุธ จำนวน ๖ — ๗ คน ในระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่จังหวัดตราด ห่างจากแนวชายแดนประมาณ ๑ กิโลเมตร โดยภายหลังการแสดงตนของกองร้อยทหารพรานฯ เพื่อเข้าจับกุม กลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้ได้ยิงต่อสู้มายังเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยก่อน เป็นเหตุให้มีการปะทะกันและนำไปสู่การเสียชีวิตของผู้ลักลอบตัดไม้ชาวกัมพูชา จำนวน ๓ คน ในขณะที่ผู้ลักลอบตัดไม้ที่เหลือหลบหนีไปได้ ในการนี้ กองร้อยทหารพรานฯ สามารถยึดของกลางเป็นอาวุธปืนอาก้า AK ๔๗ ได้ ๑ กระบอก และไม้พะยูงแปรรูปจำนวน ๑ แผ่น เกี่ยวกับเหตุการณ์เดียวกัน หนังสือพิมพ์รัศมีกัมพูชาและหนังสือพิมพ์ The Phnom Penh Post ฉบับวันที่ ๖ — ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ได้รายงานอย่างชัดเจนว่ากลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้ดังกล่าวมีการติดอาวุธและได้ใช้อาวุธต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย
๗. ทางการไทยได้ใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างสูงสุดในการดำเนินการต่อผู้ลักลอบตัดไม้ ซึ่งรวมถึงความพยายามในการหลีกเลี่ยงการใช้กำลัง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยเชื่อมั่นว่าปัญหาการลักลอบตัดไม้ จะต้องได้รับการแก้ไขที่ต้นทางและมูลเหตุของปัญหา และได้ประชาสัมพันธ์เตือนให้ประชาชนชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดน ได้รับทราบถึงผลที่ตามมาของการลักลอบข้ามมาตัดไม้ เพื่อไม่ให้ถูกชักจูง โดยขบวนการลักลอบตัดไม้ ในการนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศอยู่ระหว่างการเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อป้องกันและปราบปรามขบวนการลักลอบตัดไม้ ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวจำเป็นต้องมีความยั่งยืนต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--