ผลการเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศองค์การความร่วมมืออิสลาม ครั้งที่ ๓๙ (OIC CFM 39)

ข่าวต่างประเทศ Friday November 23, 2012 14:42 —กระทรวงการต่างประเทศ

ผลการเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศองค์การความร่วมมืออิสลาม ครั้งที่ ๓๙ (OIC CFM 39) เมื่อวันที่ ๑๕ — ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ที่สาธารณรัฐจิบูตี

๑. เมื่อวันที่ ๑๕ — ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ คณะผู้แทนไทย ประกอบด้วยนายจุลพงษ์ โนนศรีชัย ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ หัวหน้าคณะ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. ดร. วิสุทธิ์ บิลลาเต๊ะ ผู้แทนจุฬาราชมนตรี นายดนัย มู่สา ผู้แทน สมช. และ พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกอ.รมน. ภาค ๔ ส่วนหน้า ได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศองค์การความร่วมมืออิสลาม ครั้งที่ ๓๙ (39th Session of the Council of Foreign Ministers of the Organisation of Islamic Cooperation — OIC CFM 39) ที่ประเทศจิบูตี ซึ่งไทยเข้าร่วมในฐานะผู้สังเกตการณ์ของ OIC

๒. ประเทศสมาชิก OIC ได้เน้นการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกเพื่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม และมีการหารือเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ เช่น ความตึงเครียดครั้งล่าสุดระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ความรุนแรงในซีเรีย การฟื้นฟูประเทศโซมาเลีย ความเกลียดกลัวอิสลาม (Islamophobia) การคัดค้านแนวคิดหัวรุนแรงซึ่งขัดกับหลักศาสนาอิสลามซึ่งเน้นสันติ และสถานการณ์ในรัฐยะไข่ในเมียนมาร์

๓. คณะผู้แทนไทยซึ่งไปร่วมการประชุมดังกล่าวได้ย้ำกับมิตรประเทศมุสลิมและ OIC ว่า ไทยมีนโยบายส่งเสริมความสัมพันธ์กับ OIC และโลกมุสลิมในเชิงสร้างสรรค์ในเรื่องที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน โดยหัวหน้าคณะผู้แทนไทยได้กล่าวถ้อยแถลง สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้

๓.๑ ไทยกับ OIC มีท่าทีและข้อคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นระหว่างประเทศที่สำคัญของโลกที่สอดคล้องกัน อาทิ การสนับสนุนสิทธิของชาวปาเลสไตน์ที่จะมีประเทศของตน ซึ่งไทยได้รับรองรัฐปาเลสไตน์เมื่อเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๔ และสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ระหว่างกันเมื่อวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๕๕ การเรียกร้องให้ยุติความรุนแรงในซีเรียและความห่วงใยต่อสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในประเทศดังกล่าว การประณามการดูหมิ่นศาสนาซึ่งทุกประเทศมีหน้าที่ที่จะต้องส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนที่มีเชื้อชาติและนับถือศาสนาที่แตกต่างกัน เป็นต้น

๓.๒ รัฐบาลไทยให้ความสำคัญเร่งด่วนในการแก้ไขสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) และได้ปฏิสัมพันธ์และให้ความร่วมมือกับ OIC เป็นอย่างดี โดยล่าสุด ได้เชิญที่ปรึกษาและผู้แทนพิเศษของเลขาธิการ OIC และคณะ เดินทางเยือนไทย ซึ่งคณะดังกล่าวเห็นว่า มีพัฒนาการทางบวกนับตั้งแต่ปี ๒๕๕๐ และรัฐบาลไทยได้ “เดินมาถูกทางแล้ว”

๔. มิตรประเทศต่าง ๆ เช่น บาห์เรน อินโดนีเซีย มาเลเซีย บรูไน ปาเลสไตน์ และทาจิกิสถาน รวมทั้งเลขาธิการ OIC และ รมว.กต. จิบูตี ซึ่งเป็นประธาน OIC ได้แสดงความเข้าใจและสนับสนุนการดำเนินการของรัฐบาลไทยในการแก้ไขปัญหา จชต. โดยเห็นว่า การพัฒนาพื้นที่จะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อมีการแก้ไขปัญหาและการดำรงสันติสุขในพื้นที่ ทั้งนี้ ในส่วนของถ้อยแถลงประเทศต่าง ๆ ในที่ประชุมมิได้มีการกล่าวพาดพิงถึงประเทศไทย โดยมีเพียงคณะผู้แทนตุรกี ซึ่งแสดงความชื่นชมกับพัฒนาการในทางบวกในสถานการณ์ใน จชต.

๕. การเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญที่ไทยจะพบปะและส่งเสริมความสัมพันธ์กับมิตรประเทศในโลกมุสลิม ซึ่งประเทศต่าง ๆ ได้ตระหนักว่า ไทยเป็นมิตรประเทศ ที่มีจุดยืนต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับโลกมุสลิม นอกจากนี้ ยังเป็นประโยชน์ในการชี้แจงนโยบายของไทยต่อโลกมุสลิมและ OIC โดยเฉพาะการดำเนินงานของรัฐบาลเกี่ยวกับสถานการณ์ จชต.

กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ