เมื่อวันที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๕๕ นายมนัสวี ศรีโสดาพล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนายพิชยพันธุ์ ชาญภูมิดล รองอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก ร่วมแถลงข่าวและบรรยายสรุปเรื่องการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีระหว่างไทยกับมาเลเซีย (Joint Commission - JC) ครั้งที่ ๑๒ และคณะกรรมการว่าด้วยยุทธศาสตร์การพัฒนาร่วมสำหรับพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย ระดับรัฐมนตรี (Joint Development Strategy — JDS) ครั้งที่ ๓ ที่จะมีขึ้นในวันที่ ๑๔ — ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๕ ณ โรงแรม JW Marriott Phuket จังหวัดภูเก็ต โดยนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะเป็นประธานร่วมกับดาโต๊ะ ซรี อานีฟาห์ บิน ฮัจญี อามาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซียในการประชุมทั้งสองดังกล่าว
JDS จัดตั้งขึ้นเมื่อปี ๒๕๔๗ เพื่อส่งเสริมความกินดีอยู่ดี การพัฒนาเศรษฐกิจ และทรัพยากรมนุษย์ของประชาชน รวมทั้งส่งเสริมความเชื่อมโยงบริเวณพื้นที่ ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) ได้แก่ สงขลา ยะลา สตูล ปัตตานี และนราธิวาส กับ ๔ รัฐภาคเหนือของมาเลเซีย ได้แก่ ปะลิส เกดะห์ กลันตัน และเประ เฉพาะอำเภอเปิงกาลันฮูลู) ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน และสนับสนุนการดำเนินการของรัฐบาลในการแก้ไขสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.)
JC จัดตั้งขึ้นเมื่อปี ๒๕๓๐ และเป็นคณะกรรมาธิการร่วมฯ แรกที่ไทยมีกับต่างประเทศ โดยเป็นต้นแบบของคณะกรรมาธิการร่วมฯ ที่ไทยมีกับประเทศอื่น ๆ JC เป็นกลไกส่งเสริมความร่วมมือรอบด้านระหว่างไทยกับมาเลเซีย อาทิ ด้านความร่วมมือชายแดน การค้าและการลงทุน พลังงาน การท่องเที่ยวการดูแลแรงงานไทยในมาเลเซีย และอุตสาหกรรมฮาลาล รวมทั้งมาตรการส่งเสริมความไว้เนื้อเชื้อใจใน จชต. (Confidence Building Measures — CBMs) ด้านการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
การประชุม JDS ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ ๓ และ JC ครั้งที่ ๑๒ มีความสำคัญในการติดตามการดำเนินการตามผลการประชุม JDS และการประชุม JC เมื่อเดือนสิงหาคม ๒๕๕๒ ที่เมืองโกตากินาบาลู รัฐซาบาห์ ผลการประชุมหารือประจำปี (Annual Consultation) ครั้งที่ ๔ ระหว่างนายกรัฐมนตรีกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เมื่อวันที่ ๘ - ๙ ธันวาคม ๒๕๕๒ ที่กรุงเทพฯ การเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ตลอดจนผลการเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศระหว่างวันที่ ๗ - ๘ ตุลาคม ๒๕๕๕ โดยผลของการประชุม JDS และ JC ครั้งนี้จะเป็นการเตรียมการสำหรับการประชุมหารือประจำปี ครั้งที่ ๕ ระหว่างนายกรัฐมนตรีกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียในปี ๒๕๕๖ ต่อไป
การประชุม JDS ครั้งที่ ๓ จะให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน การอำนวยความสะดวกด้านกฎหมายและความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับประชาชน (physical, institutional and people to people connectivity) โดยเร่งรัดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ๆ ได้แก่ (๑) การก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลกสองแห่งเชื่อมโยงจังหวัดนราธิวาสและรัฐกลันตันระหว่างอำเภอตากใบ - เปิงกาลันกุโบร์ และสุไหงโก-ลก - รันเตาปันยัง (๒) การเชื่อมโยงโครงการพัฒนาด่านสะเดา จังหวัดสงขลา - บูกิตกายูฮิตัม รัฐเกดะห์ ซึ่งเป็นด่านศุลกากรที่ใหญ่และคับคั่งที่สุดในจำนวนจุดผ่านแดนถาวร ๙ แห่งระหว่างไทยกับมาเลเซีย และด่านศุลกากรสะเดาเป็นด่านชายแดนทางบกที่มีมูลค่าการค้าขายสูงสุดของประเทศไทย นอกจากนี้ จะให้ความสำคัญกับการหาข้อสรุปการเจรจาเพื่อจัดทำร่างกรอบความตกลงว่าด้วยการเดินทางของสินค้าและผู้โดยสารข้ามแดนและผ่านแดนระหว่างไทยกับมาเลเซียอันจะช่วยอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารระหว่างกัน
การประชุม JC ครั้งที่ ๑๒ จะให้ความสำคัญกับ (๑) การส่งเสริมความร่วมมือด้านบุคคลสองสัญชาติให้มีผลเป็นรูปธรรม (๒) การส่งเสริมการค้าและการลงทุน (๓) การจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านการค้า (Joint Trade Committee —JTC) ครั้งที่ ๒ ในเดือนมีนาคม ๒๕๕๖ ที่จังหวัดเชียงใหม่ และ (๔) ความร่วมมือด้านยางพารา
อนึ่ง การประชุม JDS ครั้งที่ ๓ และ JC ครั้งที่ ๑๒ มุ่งเน้นการเสริมสร้างและพัฒนาความร่วมมือเพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงและสิ่งท้าทายต่าง ๆ ในภูมิภาคและจังหวัดชายแดนภาคใต้ และสนับสนุนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศของไทยกับมาเลเซีย รวมทั้งความร่วมมือด้านการเชื่อมโยงในอนุภูมิภาคทั้งในกรอบ Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle (IMT-GT) และอาเซียนด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--