นายกรัฐมนตรีเตรียมชูบทบาทไทยในการประชุมระดับรัฐมนตรีของประชาคมประชาธิปไตย ครั้งที่ ๗

ข่าวต่างประเทศ Monday April 22, 2013 14:41 —กระทรวงการต่างประเทศ

น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีของประชาคมประชาธิปไตย ครั้งที่ ๗ (The 7th Ministerial Meeting of the Community of Democracies - CD) ในวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๕๖ ณ กรุงอูลานบาตอร์ ประเทศมองโกเลีย ในฐานะแขกเกียรติยศของประธานาธิบดีมองโกเลีย เพื่อชูบทบาทของไทยในการส่งเสริมและสนับสนุนการเสริมสร้างศักยภาพของประชาชน โดยเฉพาะในระดับรากหญ้า ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาประชาธิปไตยอย่างยั่งยืน

ประชาคมประชาธิปไตยเป็นการรวมตัวกันของกลุ่มประเทศที่มีวัตถุประสงค์ส่งเสริมหลักประชาธิปไตยและสร้างความเข้มแข็งให้กับสถาบันประชาธิปไตยมาตั้งแต่ปี ๒๕๔๓ และมีการประชุมระดับรัฐมนตรีทุก ๒ ปี

โดยในการประชุมครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะกล่าวถ้อยแถลงเน้นย้ำความตั้งใจของไทยในฐานะที่เป็นสมาชิกที่มีบทบาทสำคัญของประชาคมโลกในการสนับสนุนประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนโดยปราศจากข้อจำกัด ด้านเพศ อายุ ศักยภาพทางร่างกาย และสถานภาพทางเศรษฐกิจ โดยเน้นการเสริมสร้างศักยภาพแก่ประชาชนด้วยการขจัดความไม่เท่าเทียมกัน เพื่อนำไปสู่การเติบโตของระบอบประชาธิปไตยอย่างยั่งยืน และในฐานะนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย จะเน้นนโยบายของรัฐบาลที่จะมอบโอกาสเท่าเทียมกันระหว่างบุรุษและสตรี ซึ่งจะส่งผลสำคัญต่อการสร้างความเข้มแข็งให้กับค่านิยมประชาธิปไตย รวมถึงความก้าวหน้าของภาคส่วนต่าง ๆ ในประเทศไทยด้วย

นอกจากนั้น ไทยให้ความสำคัญกับประเด็นการศึกษาเพื่อประชาธิปไตย ในฐานะกลไกสำคัญที่จะสร้างให้ประชาชนเกิดความตระหนักถึงหน้าที่พลเมืองและค่านิยมประชาธิปไตย โดยนอกจากไทยจะแสดงความมุ่งมั่นในระดับระหว่างประเทศต่อประเด็นดังกล่าว อาทิ สนับสนุนความริเริ่มของมองโกเลียในเวทีต่าง ๆ การร่วมอุปถัมภ์ข้อมติที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติเรื่องการศึกษาเพื่อประชาธิปไตย และการเข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศในด้านสิทธิมนุษยชนต่าง ๆ แล้ว ประเทศไทยยังส่งเสริมการนำแนวทางการศึกษาโดยใช้นักเรียนเป็นศูนย์กลาง(student — centered approach) เพื่อกระตุ้นความตระหนักรู้ พัฒนาพฤติกรรม ทัศนคติ และค่านิยมในด้านประชาธิปไตยให้กับนักเรียน

ไทยยังเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศให้ความสำคัญกับหลักนิติธรรมและประชาธิปไตย ซึ่งเชื่อมโยงกับการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยประเด็นดังกล่าวควรได้รับการพิจารณาบรรจุไว้ในวาระการพัฒนาระหว่างประเทศภายหลังปี ค.ศ. ๒๐๑๕ ด้วย

อนึ่ง นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการเยือนมองโกเลียอย่างเป็นทางการเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างทั้งสองประเทศ โดยถือเป็นนายกรัฐมนตรีของไทยคนแรกที่เดินทางเยือนมองโกเลียอย่างเป็นทางการ นอกจากนั้น ยังจะใช้โอกาสในการเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ หารือกับผู้แทนองค์การระหว่างประเทศและผู้แทนประเทศต่าง ๆ รวมถึงสหภาพยุโรป เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันต่อไปด้วย

กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ