เมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๖ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เป็นประธานงานเลี้ยงรับรองเอกอัครราชทูตกลุ่มประเทศแอฟริกาประจำเทศไทย ทั้งที่มีถิ่นพำนักที่กรุงเทพฯ และที่เมืองหลวงของประเทศอื่น ๆ ในโอกาสที่กระทรวงการต่างประเทศจัดกิจกรรม “วันแอฟริกา ๒๐๑๓ ที่กรุงเทพฯ” (“Africa Day 2013, Bangkok”) เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ ๕๐ ปี ของวันก่อตั้งสหภาพแอฟริกา (African Union - AU) ซึ่งตรงกับวันที่ ๒๕ พฤษภาคมของทุกปี และเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ ไทย - แอฟริกา อันถือเป็นก้าวสำคัญของพัฒนาการด้านการต่างประเทศของไทย โดยในโอกาสดังกล่าว รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. ปัจุบัน รัฐบาลมีนโยบายเพิ่มพูนความสัมพันธ์และความร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ ในแอฟริกา หรือที่เรียกว่า ความคิดริเริ่มของไทยต่อแอฟริกา (Thai — African Initiatives) รวมทั้งกำลังเตรียมการจัดการประชุมระดับสูงระหว่างไทยกับแอฟริกาในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๖ นอกจากนี้ นายกรัฐมตรีมีกำหนดการเยือนโมซัมบิกและแทนซาเนีย ในเดือนกรฎาคม ๒๕๕๖ ส่วนรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกำหนดเยือนแอฟริกาใต้และไนจีเรียในเดือนสิงหาคม ๒๕๕๖ และไทยยังมีแผนเปิดสถานเอกอัครราชทูตไทยที่ประเทศโมซัมบิกในปี ๒๕๕๗ และที่ประเทศเอธิโอเปียในปี ๒๕๕๘ ตามลำดับ เนื่องจากเล็งเห็นว่า แอฟริกาเป็นทวีปที่ทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ในเวทีการเมืองระหว่างประเทศและในเวทีเศรษฐกิจโลก
๒. แอฟริกาเป็นที่ตั้งของประเทศต่าง ๆ รวม ๕๔ ประเทศ ซึ่งล้วนเป็นประเทศกำลังพัฒนา มีประชากรจำนวนมาก รวมทั้งมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูง มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ไทยจึงต้องมียุทธศาสตร์และแนวทางที่เหมาะสมในการพัฒนาความร่วมมือและความเป็นหุ้นส่วนกับแอฟริกา อันจะนำมาซึ่งการเสริมสร้างศักยภาพทางเศรฐกิจและโอกสทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับแอฟริกา
๓. ที่ผ่านมา สำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (สพร.) ได้ให้ความช่วยเหลือทางวิชาการและจัดฝึกอบรมบุคลากรของหลายประเทศในแอฟริกาในสาขาที่ไทยมีความเชี่ยวชาญ เช่น การเกษตร การประมง การสาธารณสุข มาอย่างต่อเนื่องหลายปีแล้ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินโยบายการต่างประเทศของไทย อย่างไรก็ตาม ยังมีความจำเป็นที่จะต้องขยายความร่วมมือและปรับปรุงให้การดำเนินการดังกล่าวมีเป้าหมายที่ชัดเจน และตอบสนองต่อผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายมากยิ่งขึ้น
๔. การจัดกิจกรรมวันแอฟริกา ๒๐๑๓ โอกาสวันครบรอบ ๕๐ ปี ของการก่อตั้งสหภาพแอฟริกาครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย — แอฟริกา โดยมีเอกอัครราชทูตกลุ่มประเทศแอฟริกาประจำประเทศไทย ๒๖ ประเทศ ตลอดจนผู้แทนภาครัฐและเอกชนไทยเข้าร่วมกิจกรรม
๕. กิจกรรมในวันแอฟริกา ๒๐๑๓ ประกอบด้วย การประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสระหว่างเอกอัครราชทูตกลุ่มประเทศแอฟริกาและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศเพื่อหารือเกี่ยวกับความริเริ่มของไทยต่อแอฟริกา และรับฟังข้อคิดเห็นของเอกอัครราชทูตต่าง ๆ ในเรื่องดังกล่าว การจัดให้คณะเอกอัครราชทูตกลุ่มประเทศแอฟริกาพบหารือกับภาคเอกชนของไทย ตลอดจนการนำคณะเอกอัครราชทูตกลุ่มประเทศแอฟริกาไปศึกษาดูงานโครงการหลวง เพื่อจะได้มีโอกาสรับทราบเกี่ยวกับการพัฒนาตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการเกษตร ซึ่งไทยมีความเชี่ยวชาญและชำนาญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเกษตรแบบผสมผสานในลักษณะพึ่งพาตนเอง
๖. รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเชื่อว่าการจัดกิจกรรมวันแอฟริกา ๒๐๑๓ครั้งนี้ จะยังประโยชน์แก่ทั้งไทยและแอฟริกาในการสร้างเครือข่ายติดต่อระหว่างกันในระยะยาว ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของไทยในกลุ่มประเทศแอฟริกา และเตรียมพร้อมสำหรับการประชุมระดับสูงระหว่างไทยกับแอฟริกาที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๖ ต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--