เมื่อวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ไทยและสาธารณรัฐเกาหลี โดยกระทรวงการต่างประเทศของ ๒ ประเทศ ร่วมกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน ๓ สถาบันของไทย (กกร.) และสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมสาธารณรัฐเกาหลี (Korea Chamber of Commerce and Industry) ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม Mekong-ROK Business Forum ครั้งที่ ๑ ณ กรุงเทพมหานคร
การประชุมฯ เป็นกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุนภายใต้กรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับสาธารณรัฐเกาหลี (Mekong-ROK Cooperation) มีผู้เข้าร่วมจากภาครัฐและเอกชน ตลอดจนสื่อมวลชนของประเทศสมาชิกกรอบความร่วมมือดังกล่าว (ได้แก่ กัมพูชา สาธารณรัฐเกาหลี สปป. ลาว เมียนมาร์ ไทย และเวียดนาม) รวมประมาณ ๑๐๐ คน
นายพิเชษฐ์ หวังเทพอนุเคราะห์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะประธานฝ่ายไทย และนาย Kim Kyou-hyun, Vice Minister of Foreign Affairs ของสาธารณรัฐเกาหลี ในฐานะประธานฝ่ายเกาหลี ได้กล่าวเปิดการประชุมฯ นายพิเชษฐ์ฯ ได้ย้ำถึงความสำคัญของประเทศลุ่มน้ำโขง ซึ่งมีเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และแรงงานจำนวนมาก รวมทั้งจะเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมอาเซียน จึงมีศักยภาพที่จะเป็นตลาดและฐานการผลิตที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งภาคเอกชนจะมีบทบาทสำคัญในการทำให้เศรษฐกิจขยายตัว โดยนักลงทุนเกาหลีใต้สามารถถ่ายทอดเทคโนโลยีที่จะรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (green technology) ให้ประเทศลุ่มน้ำโขงได้ นอกจากนี้ ในด้านการอำนวยความสะดวกในการข้ามแดน นายพิเชษฐ์ฯ เสนอให้ใช้ประโยชน์จากกลไกต่าง ๆ ที่มีอยู่แล้วอย่างเต็มศักยภาพเพื่อส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่บริเวณชายแดนปฏิบัติงานได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นเพื่อลดขั้นตอนและเวลา
นาย Kim Kyou-hyun ยืนยันว่า เกาหลีใต้ยังคงยึดมั่นในการร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับประเทศลุ่มน้ำโขงเพื่อความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันต่อไปผ่านกรอบความร่วมมือนี้และอาเซียน โดยจะให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนา (Official Development Assistance: ODA) อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน ODA ที่เกาหลีใต้ให้แก่ประเทศลุ่มน้ำโขงมีสัดส่วนถึงร้อยละ ๖๕ ของ ODA ที่ให้ประเทศสมาชิกอาเซียน นอกจากนี้ เกาหลีใต้ยินดีจะแบ่งปันประสบการณ์และบทเรียนในการพัฒนาประเทศ รวมทั้งต้องการส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) ซึ่งเป็นนโยบายเศรษฐกิจสำคัญของประธานาธิบดี ปัก กึน-ฮเย
การประชุม Mekong-ROK Business Forum ครั้งที่ ๑ มีการเสวนาของวิทยากรรับเชิญจากหน่วยงานด้านการค้าการลงทุนและการพัฒนาของประเทศสมาชิกกรอบ Mekong-ROK ตลอดจนผู้ประกอบการที่มีประสบการณ์การลงทุนในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง โดยแบ่งหัวข้อเป็น (๑) บรรยากาศและมาตรการส่งเสริมการลงทุนในประเทศลุ่มน้ำโขง ซึ่งเป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายการลงทุนและกฎระเบียบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน หน่วยงานที่นักลงทุนต่างชาติจำเป็นต้องติดต่อและขั้นตอนที่ต้องดำเนินการศักยภาพของแต่ละประเทศ และสาขา/ ภาคเศรษฐกิจที่ต้องการการลงทุนจากต่างประเทศเป็นพิเศษ และ (๒) ประสบการณ์จริงของนักธุรกิจที่ลงทุนในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
การประชุมปิดท้ายด้วยการเจรจาจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching) ซึ่งมีภาคเอกชนเกาหลีใต้มาร่วมประมาณ ๒๐ คน เช่น บริษัท CU Convergence (ก่อสร้างและโรงแรม) บริษัท Youngone (เสื้อผ้า) และบริษัท Donghwa (อลูมิเนียมอัลลอย) ส่วนเอกชนไทยที่เข้าร่วมการจับคู่ธุรกิจ เช่น บริษัทล็อกซเลย์ บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์ และบริษัท พาวิน คอร์ป จำกัด ทั้งนี้ กกร. ได้นำคณะนักธุรกิจเกาหลีไปเยี่ยมชมงาน THAIFEX: World of Food Asia ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอาหารที่สำคัญของเอเชียในวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--