นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มีกำหนดเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศลุ่มน้ำโขงกับหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา ระหว่างวันที่ ๓๐ มิถุนายน — ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ที่บันดาร์เสรีเบกาวัน บรูไนดารุสซาลาม ในช่วงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ ๔๖ โดยมีกำหนดเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ ๖ และการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศลุ่มน้ำโขงกับสาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ ๓ ในวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๖ และเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีข้อริเริ่มลุ่มน้ำโขงตอนล่าง (สหรัฐฯ) ครั้งที่ ๖ ในวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖
ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศลุ่มน้ำโขงกับหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาในแต่ละกรอบมีเป้าหมายเช่นเดียวกัน คือ ลดช่องว่างทางเศรษฐกิจและการพัฒนาระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนเก่ากับอาเซียนใหม่ มุ่งไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ซึ่งแต่ละกรอบให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม โดยมีสาขาความร่วมมือครอบคลุมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงคมนาคม เกษตร การบริหารจัดการน้ำ สิ่งแวดล้อม สาธารณสุข การศึกษา เป็นต้น
ไทยเข้าร่วมการประชุมลุ่มน้ำโขงกับหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาในทั้ง ๓ รายการในฐานะหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา โดยเป็นการต่อยอดจากที่ไทยให้ความช่วยเหลือทั้งในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ผ่านกรอบความร่วมมือ ACMECS และทวิภาคี ตัวอย่างของกิจกรรมหรือโครงการที่ไทยดำเนินการ เช่น ไทยร่วมกับสหรัฐฯ และเมียนมาร์จัดโครงการควบคุมและป้องกันมาลาเรียตามแนวชายแดนไทย-เมียนมาร์ ระยะดำเนินการระหว่างปี ๒๕๕๖-๒๕๕๘ ไทยร่วมกับญี่ปุ่นจัดการประชุม Green Mekong Forum ครั้งที่ ๑ เมื่อปี ๒๕๕๔ และจะร่วมกันเป็นเจ้าภาพ Green Mekong Forum ครั้งที่ ๒ ในปีนี้ ซึ่งจะหารือประเด็นที่เป็นข้อห่วงกังวลร่วมกันของภูมิภาค เช่น การบริหารจัดการน้ำและปัญหาหมอกควัน และไทยร่วมกับสาธารณรัฐเกาหลีจัดการประชุม Mekong-ROK Business Forum ครั้งที่ ๑ เมื่อวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ที่กรุงเทพฯ ซึ่งที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับศักยภาพและโอกาสทางการค้าและการลงทุนในประเทศลุ่มน้ำโขง โดยเห็นว่าประเทศ อนุภูมิภาคสามารถเชื่อมโยงกันเป็นห่วงโซ่อุปทานของภูมิภาค และจำเป็นต้องพัฒนาระบบโลจิสติกส์และทรัพยากรมนุษย์ไปพร้อมกัน
ในการประชุมครั้งนี้ ไทยจะเน้นให้ประเทศหุ้นส่วนพัฒนาร่วมดำเนินโครงการกับไทยให้มากขึ้น เช่น ในโครงการโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ การพัฒนาเส้นทางหมายเลข ๔๘ ในกัมพูชา (เกาะกง-สะแรอัมเบิล) ซึ่งเชื่อมโยงกับถนนของไทย และจะมีการหารือสามฝ่ายเพื่อพัฒนาเส้นทางดังกล่าว นอกจากนั้น จะให้ความสำคัญกับผลกระทบสิ่งแวดล้อม เช่น ปัญหาหมอกควัน ซึ่งทั้งสหรัฐฯ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลและเทคโนโลยีได้ เช่น จัดทำระบบพยากรณ์อากาศของภูมิภาค
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--