นายจุลพงษ์ โนนศรีชัย ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ จะนำคณะผู้แทนไทยไปสำรวจเส้นทางหมายเลข ๑๒ ใน สปป. ลาว และเวียดนาม ระหว่างวันที่ ๒๙ กันยายน — ๓ ตุลาคม ๒๕๕๖ โดยมี ผู้แทนทั้งจากกระทรวงการต่างประเทศ (รวมทั้งจากสถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย และสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินท์) และจากหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงคมนาคม กรมศุลกากร และสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (สพพ. หรือ NEDA) ร่วมเดินทางไปด้วย
ในการศึกษาเส้นทางหมายเลข ๑๒ ครั้งนี้ คณะผู้แทนไทยจะได้หารือรับฟังความเห็นและรับทราบความต้องการของภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ จ.นครพนม อาทิ ผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัด ศุลกากรจังหวัด และหอการค้าจังหวัดนครพนม โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์จากสะพานมิตรภาพแห่งที่ ๓ (นครพนม-คำม่วน) ซึ่งไทยให้ความช่วยเหลือในการก่อสร้างภายใต้กรอบความร่วมมือ ACMECS และยังได้มีโอกาสเยี่ยมชมจุดผ่านแดนนครพนม-คำม่วน หารือกับเจ้าหน้าศุลกากรและตรวจคนเข้าเมือง สปป. ลาว และในเวียดนาม พบหารือกับประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดกว่างบิงห์ เว้ และนครดานังของเวียดนาม เยี่ยมชมจุดผ่านแดนนาพาวและด่านจาลอ ระหว่าง สปป. ลาวและเวียดนาม รวมทั้งพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญของเวียดนาม เช่น ท่าเรือดานัง และบริษัทร่วมทุนระหว่างไทย-เวียดนามในนครดานังด้วย
เส้นทางหมายเลข ๑๒ ซึ่งเริ่มเปิดการเดินรถมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๒ เป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดในการขนส่งสินค้าจากไทยไปสู่กรุงฮานอย เมืองหลวงของเวียดนาม และเขตการปกครองตนเองกวางสีซึ่งเป็นประตูการค้าหนึ่งที่สำคัญระหว่างจีนกับอาเซียน แต่ที่ผ่านมา มีปัญหาและอุปสรรคในการคมนาคมขนส่งตามเส้นทางนี้ และไม่มีความสะดวกในการผ่านแดน เพราะเส้นทางนี้ไม่อยู่ภายใต้ความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS CBTA) รัฐบาลไทยได้หยิบยกความสำคัญในการอำนวยความสะดวกเส้นทางนี้ในทุกเวที ทั้งในระดับทวิภาคี อนุภูมิภาค และ ในที่ประชุมอื่น ๆ จนกระทั่งในการประชุมระดับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศตามแนวพื้นที่ระเบียงตะวันออก-ตะวันตก ครั้งที่ ๒ ที่สะหวันนะเขต เมื่อวันที่ ๑๕-๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ไทย สปป. ลาวและเวียดนาม เห็นพ้องให้รวมเส้นทางหมายเลข ๘ และ ๑๒ เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางตามแนว East West Economic Corridor (EWEC) ภายใต้ข้อตกลง GMS CBTA และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้ง ๓ ประเทศ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ในการศึกษาพื้นที่จริงและพบปะหารือกับผู้นำและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องครั้งนี้ จะได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับฝ่ายไทยในการกำหนดประเด็น และท่าทีสำหรับการประชุมระดับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศตามแนวพื้นที่ระเบียงตะวันออก-ตะวันตก ครั้งที่ ๓ ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพในปี ๒๕๕๗
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--