การสัมมนา “หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ไทย-เวียดนาม: มิติใหม่แห่งความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ”

ข่าวต่างประเทศ Monday September 30, 2013 17:24 —กระทรวงการต่างประเทศ

เมื่อวันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๖ สมาคมมิตรภาพไทย-เวียดนาม ร่วมกับกรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ จัดการสัมมนาเรื่อง “หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ไทย-เวียดนาม: มิติใหม่แห่งความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ” (Thailand-Vietnam Strategic Partnership: Towards a New Era of Economic Relations) ณ โรงแรมพลาซ่าแอทธินี กรุงเทพฯ โดยมีนายประจวบ ไชยสาส์น นายกสมาคมมิตรภาพไทย-เวียดนาม และนายโง ดึ๊ก ถัง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย ร่วมกล่าวเปิดการสัมมนาฯ

การสัมมนาในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมประมาณ ๒๐๐ คน จากทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และบุคคลทั่วไป รวมทั้งสื่อมวลชนไทยและเวียดนาม ในการนี้ ผู้เข้าร่วมการสัมมนาต่างได้รับข้อมูลเกี่ยวกับภาพรวมการยกระดับความสัมพันธ์ไทย-เวียดนามขึ้นเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านเศรษฐกิจ โดยนาย Nguyen Thanh Hai ผู้ช่วยทูตฝ่ายพาณิชย์เวียดนามประจำประเทศไทย ได้บรรยายเกี่ยวกับศักยภาพใหม่ของเวียดนามที่มีเสถียรภาพทางการเมืองที่มั่นคง มีจำนวนประชากรกว่า ๙๐ ล้านคนมีกำลังซื้อสูงและอยู่ในวัยทำงาน มีค่าแรงถูก มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ตลอดจนรัฐบาลเวียดนามให้ความสำคัญกับการลงทุนโดยนักธุรกิจต่างประเทศ (FDI) อย่างมาก พร้อมทั้งมีการแก้กฎหมายต่าง ๆ เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อนักลงทุนต่างชาติ นางศิริพร นุรักษ์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้ให้ข้อแนะนำสำหรับนักลงทุนไทยที่จะไปลงทุนในเวียดนาม โดยแนะนำให้หาที่ปรึกษาทางด้านกฎหมายและศึกษาทำเลที่ตั้งก่อน เนื่องจากแต่ละจังหวัดจะมีกฎหมายการลงทุนที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ ควรหาหุ้นส่วนทางธุรกิจที่เป็นชาวเวียดนามเพื่อสร้างเครือข่ายในการลงทุนด้วย

ในช่วงที่สองของการสัมมนา มีการเสวนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์การลงทุนในเวียดนาม โดยมีนายสุรพล สิริพงศกร กรรมการผู้จัดการ บริษัทพัฒนาภัณฑ์เคมีเทค จำกัด นายธาราบดี ซึ่งอดิชัยวิทย์ ผู้จัดการธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาโฮจิมินห์ และนายโฉลกพร ผลชีวิน กรรมการผู้จัดการ บริษัทวีนาคราฟท์เปเปอร์ จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมเสวนา โดยได้แนะนำให้ทดลองตลาดในเวียดนามก่อนที่จะเข้าไปลงทุน เพื่อประเมินความเหมาะสมของสินค้า และพิจารณาแนวทางทำธุรกิจว่าจะเป็นสินค้าสำหรับป้อนตลาดเวียดนามหรือเพื่อส่งออก นอกจากนี้ ควรมีทัศนคติการค้าขายในเวียดนามที่เน้นฐานลูกค้าที่มั่นคงและยาวนาน ไม่เน้นกำไรในระยะสั้น สุดท้าย ประชาชนเวียดนามเห็นว่าสินค้าอุปโภคและบริโภคของไทยเป็นสินค้าเกรดดีมีคุณภาพ เหมาะสมกับราคา อย่างไรก็ตาม ข้อควรระวังคือ สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละพื้นที่และกฎหมายสิ่งแวดล้อมของเวียดนามซึ่งเคร่งครัดกว่าในประเทศไทย นักลงทุนจึงควรศึกษาอย่างละเอียดและรอบคอบ เช่น กฎหมายเรื่องมลภาวะ และกฎหมายเรื่องการบำบัดน้ำเสีย เป็นต้น

กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ