๑. รองอธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ ได้แสดงความห่วงกังวลถึงการที่ OHCHR เดินทางไปขอนแก่นและเชียงใหม่เมื่อต้นสัปดาห์นี้ แม้ว่ากระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งข้อคิดเห็นว่า ไม่น่าจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เมื่อคำนึงถึงความละเอียดอ่อนของบริบททางการเมือง ผู้แทน OHCHR แสดงความเข้าใจถึงข้อห่วงกังวล แต่ได้ตั้งข้อสังเกตว่า การเดินทางไปเยือนขอนแก่นส่งผลให้ได้รับข้อมูลที่ดีจากพื้นที่ ซึ่งแตกต่างจากที่มีการรายงานข่าวจากภายในและระหว่างประเทศ ทั้งยังเห็นว่าทหารได้ใช้ความอดกลั้นและใช้อำนาจตามกฎอัยการศึกอย่างจำกัด ทั้งนี้ จะรายงานผลการเดินทางไปเชียงใหม่ให้ทราบต่อไป รวมทั้งรับที่จะปรึกษาหารือกระทรวงการต่างประเทศก่อนเสมอหากมีแผนการที่จะลงพื้นที่ในต่างจังหวัด
๒. ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อมูลพัฒนาการ โดย OHCHR มีความห่วงกังวลในเรื่องการควบคุมตัว และการเข้าถึงผู้ถูกกักของครอบครัวหรือญาติ ตลอดจนการใช้ศาลทหาร ซึ่งฝ่ายไทยได้ยืนยันว่า การบังคับใช้กฎอัยการศึกเป็นเพียงมาตรการชั่วคราว และกระทบต่อสิทธิของประชาชนในบางเรื่องเท่านั้น ตลอดจนมีแนวโน้มที่จะผ่อนคลายลงตามพัฒนาการทางบวกของสถานการณ์ นอกจากนั้น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ก็ได้ประกาศว่า คสช. จะดำเนินการต่างๆ โดยยึดมั่นตามหลักการสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้ ได้มีการผ่อนปรนการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของประชาชนเป็นระยะ ทั้งบุคคลที่ถูกเรียกไปรายงานตัว ก็มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดี ครอบครัวของผู้ถูกกักสามารถติดต่อได้ ที่ผ่านมา มีการจัดส่งยาประจำตัวให้ เป็นต้น และได้รับการปล่อยตัวในเวลาอันสั้น และบัดนี้ ส่วนใหญ่ได้รับการปล่อยตัวไปแล้ว
๓. ผู้แทน OHCHR รับทราบถึงพัฒนาการต่างๆ ที่เกิดขึ้น และจะรายงานสำนักงานใหญ่ที่นครเจนีวาทราบต่อไป ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลกันเป็นระยะๆ
--กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ--